“ตุยเย่วาตานาเบ้ ไอโกะ” เม้สซี ตีจาก บารซา / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

ใครอยากรู้ความหมายของ “ตุยเย่วาตานาเบ้ ไอโกะ” ก็ต้องไปถามพวกที่ร่วมชุมนุมประท้วงขับไล่เผด็จการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ตามท้องถนน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนในรุ่นเด็กๆ หนุ่มสาว วัยระหว่าง 10-22 ปี ที่อดีตเอเจ้นท์ของ ลิโอเน็ล เม้สซี (Lionel Messi) เคยบอกไว้ว่า คนระดับอายุขนาดนี้คือกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับอิทธิพลขนาดหนักจากภาพลักษณ์ของนักเตะรายนี้ แล้วนี่เขากำลังจะลาขาดจาก บารเซโลนา โดยเริ่มเจรจากับสโมสรอื่นได้อย่างอิสระ ไม่มีค่าตัว งานนี้ใคร “ตุย” กันแน่

ดาวยิงทีมชาติอารเฆ็นตีนา วัย 33 ปี มีสัญญาอยู่กับ บารเซโลนา ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2021 แต่หมดใจ อยากย้ายออกตั้งแต่ยังไม่หมดสัญญา โดยเฉพาะหลังจากแพ้ บาแยร์น มึนเชิ่น อย่างหมดสภาพ 2-8 ในเกม ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม ฤดูกาลที่แล้ว แต่ก็ยังติดค่าโอนย้ายที่สโมสรวางราคาไว้ถึง 580 ล้าน เอวโร อย่างไรก็ตาม ตามกฎของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า อนุญาตให้นักเตะเริ่มเจรจากับสโมสรอื่นได้เมื่อสัญญาเหลือไม่เกิน 6 เดือน ดังนั้น ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา เม้สซี สามารถเปิดฉากเจรจากับใครก็ได้ตามใจชอบ เพื่อย้ายไปเข้าสังกัดทีมใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้

ด้วยรายได้ที่ เม้สซี ต้องการปีละหลายสิบล้านเอวโรนั้น หลายฝ่ายมองว่า จุดหมายปลายทางที่น่าจะเป็นไปได้คือ ทีมที่รวยมากและต้องการความสำเร็จ บารซา เองเป็น 1 ในนั้น เพราะ โฆเซ้พ มาเรีย บารโตเมอู (Josep Maria Bartomeu) ประธานสโมสรก็ยอมลาออกไปแล้วเพื่อแสดงความรับชอบต่อความตกต่ำ และจะมีการเลือกประธานคนใหม่แทนผู้รักษาการชั่วคราวในวันที่ 24 มกราคมนี้ ซึ่งอาจมีนโยบายถูกใจ เม้สซี และสามารถรั้งนักเตะให้อยู่กับสโมสรได้

ปารี แซ็ง แชรแม็ง (Paris Saint-Germain) ที่ต้องโคจรมาเจอกับ บารซา ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ เข้ามาเป็นตัวเลือกด้วย เพราะเจ้าของสโมสรเป็นกลุ่มทุนจาก กาตาร เงินหนามาก อีกทั้ง เนย์มาร (Neymar) กองหน้าทีมชาติบราซิว ที่เคยเล่นกับ เม้สซี ยังพยายามย้ายทีมมาเล่นกับเขาอีก แต่ บารซา ไม่โอเคกับเงื่อนไขของนักเตะและต้นสังกัด ดังนั้น เม้สซี อาจย้ายไปหาเองก็ได้ ทั้งนี้ สโมสรเมืองน้ำหอมก็จัดแจงแต่งตัวรออยู่แล้วด้วยการเซ็นสัญญากับโค้ชคนใหม่ที่เป็นชาวอารเฆ็นตีนาเสียด้วย นั่นคือ เมารีซิโอ โปเช้ตตีโน (Mauricio Pochettino)

แมนเช้สเต้อร์ ซิตี้ (Manchester City) ที่เจ้าของทีมคือ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊พ (City Football Group) กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของ สหรัฐ อาหรับ เอมีเรทส์ ร่วมกับ สหรัฐอเมริกา และจีน ที่มีเป้าหมายเป็นเจ้าของทีมในทุกๆทวีป เป็นอีกปลายทางหนึ่ง

เมเจ้อร์ ลีก ซ้อคเค่อร์ (Major League Soccer) ของ สหรัฐ อเมริกา ก็ด้วย แต่น่าจะมีทางเป็นไปได้น้อย เพราะเป็นป่าช้านักเตะชรามากกว่าจะเป็นที่ไปสร้างชื่อ และความจริง ลิโอเน็ล เองก็ไปทำเสียเอาไว้หลายหน อาจไม่เป็นที่ต้อนรับจากแฟนๆ เช่น แฟนบอลใน ชิคาโก หลายคนยอมจ่ายค่าตั๋วราคาแพง 2,000 ยูโรเพื่อเงื่อนไขพิเศษได้ลงไปในสนามกระทบไหล่กับ ลิโอเน็ล พร้อมรับเสื้อและลูกบอล แต่หมอนี่ดันถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 68 แล้วก็หายตัวไปเลย ฟุตบอลกระชับมิตรที่ ล้อส แอนเจลิส ในปี 2013 ก็ถูก เม้สซี ถอนตัวเอาวินาทีสุดท้าย ทำเอาผู้จัดหัวเสียหนักเลย

เรื่องความสำเร็จ เม้สซี เล่นกับทีมใหญ่ของ บารเซโลนา ตั้งแต่ปี 2004 รวม 750 นัด ยิงไป 644 ประตู ช่วยคว้าถ้วยแช้มพ์มา 34 ใบ และที่สำคัญคือ มูลค่าทางการตลาด ลำพังรายได้ของตนเองในปี 2019 และ 2020 ก็ทำได้ถึงปีละ 112 ล้าน เอวโร แล้ว ในปี 2012 สโมสรจาก รัสเซีย เคยเสนอรายได้ให้เดือนละ 30 ล้าน ยูโร และยอมชำระค่าโอนย้ายให้ 250 ล้าน ยูโร ด้วย มูลค่าทางการตลาดของเขาถูกประเมินสูงขึ้นเรื่อยจากปี 2013 อยู่ที่ 140 ล้าน, 152.3 ล้าน, 217 ล้าน มาเป็นล่าสุด 252 ล้าน

เม้สซี เป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนๆให้มาซื้อสินค้าที่ระลึกเหนือกว่านักเตะเรืองนามทั้งหลายของสโมสร โดยเฉพาะเสื้อแข่งที่ปักเชื่อของเขาขายได้คิดเป็นจำนวน 85% ของเสื้อแข่งที่ขายได้ทั้งหมด ดังนั้น การมี ลิโอเน็ล เม้สซี ในสโมสร ย่อมสร้างความสำเร็จให้แก่ทีมในแง่ของการแข่งขัน และในแง่ของธุรกิจยังทำมูลค่าได้มหาศาลจริงๆ แต่ถ้าใครเคยมี เม้สซี แล้ว ต้องสูญเสียหมอนี่ไปละก็ “ตุยเย่วาตานาเบ้ ไอโกะ” ครับ