“น้องนัท” วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์ นักมวยไทยดาวรุ่งหญิงที่กำลังเฉิดฉายบนเวทีระดับโลก จากการปิดเกมไวสองไฟต์ติด ในการแข่งขันชกมวยไทย รายการ วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากการชกมวยไทยแล้ว หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า น้องนัท เธอซุ่มฝึกวิชาบราซิเลียนยิวยิตสู (BJJ) และการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ตามรอยเพื่อนร่วมค่ายอย่าง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อีกด้วย โดยล่าสุดเธอคว้า 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน จากการแข่งขัน BJJ ระดับประเทศมาครอง
จริงๆ แล้ว น้องนัท เคยเข้าร่วมการแข่งขันรายการ “SIAM CUP BRAZILIAN JIU-JITSU” มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2562 โดยคว้าเหรียญทองในรุ่น 57 กิโลกรัม ประเภทใส่ชุดกิ แต่โชคร้ายเธอได้รับบาดเจ็บในระหว่างฝึกซ้อมหลังจากนั้น ทำให้เอ็นหัวเข่าฉีก ต้องพักขาซ้ายทำกายภาพอยู่ร่วมครึ่งปี ก่อนจะกลับมาลงแข่งขันชกมวยไทยในรายการ วัน แชมเปียชิพ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และใช้เวลาซ้อม BJJ อยู่ราว 3 เดือน ก่อนลงแข่งขันเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา
“ตอนแรกทาง ดีเจ (โค้ช BJJ ประจำค่ายแฟร์เท็กซ์) ยังไม่ได้ชวนให้ลงแข่ง เพราะคิดว่าหนูน่าจะยังไม่พร้อม แต่หนูก็มั่นใจว่าเข่าหายดีแล้ว จึงไปขอ คุณเปรม (บุษราบวรวงษ์) ลงแข่งเอง ซึ่งรายการนี้ยังได้ พี่มาร์ค (มาร์ค แฟร์เท็กซ์ อาเบลาร์โด นักกีฬา วัน แชมเปียนชิพ) เข้าร่วมในฐานะนักกีฬาชายด้วย”
ในการแข่งขันครั้งนี้ น้องนัท ลงสมัครรวม 3 ประเภท คือ แบบใส่ชุดกิ รุ่น 64 กิโลกรัม, แบบใส่ชุดกิ ไม่จำกัดน้ำหนัก (รวมทุกสายขาว) และ แบบไม่ใส่ชุดกิ ซึ่งใช้เวลาแข่งขันตั้งแต่เช้าจรดเย็น
“อย่างมากนักกีฬาคนอื่นจะลงแข่งกันแค่สองประเภท แต่ว่าหนูลงหมดเลย (หัวเราะ) แบบใส่ชุดกิ รุ่น 64 กิโล มีนักกีฬาทั้งหมด 10 คน หนูต้องเจอทั้งหมด 4 คน และหนูชนะได้ทั้งหมด คว้าเหรียญทองมาค่ะ”
“ส่วนอีกสองประเภทได้เหรียญเงิน โดยแบบไม่ใส่ชุดกิ มาพลาดรอบสุดท้าย เทกดาวน์คู่แข่งนอกพื้นที่ ส่วนแบบใส่ชุดกิ ไม่จำกัดน้ำหนัก ตอนนั้นมือหนูเกร็ง ปวดไปหมดแล้ว ทำอะไรคู่แข่งไม่ได้มาก จึงแพ้คะแนนไปค่ะ”
การแข่งขันมากถึง 3 ประเภททำให้ น้องนัท ต้องผ่านศึกถึง 10 ไฟต์ในวันเดียว โดยเก็บสถิติทำซับมิชชัน 4 ไฟต์, ชนะคะแนน 4 ไฟต์ และแพ้คะแนนสองไฟต์ ถ้าในระดับสมัครเล่นแล้วถือว่าเธอไม่ธรรมดาจริงๆ
“นัทว่า สนุกดีค่ะ ได้เจอคนเก่งๆ ได้เรียนรู้การแก้เกมจากนักกีฬาที่หลากหลาย ได้ท้าทายตัวเองว่าสามารถทำได้ตามที่ซ้อมมาหรือไม่ และบางเทคนิคหนูก็คิดขึ้นได้เองนอกเหนือจากที่โค้ชสอนมา”
“ถึงแม้ว่ารอบนี้จะได้มา 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน แต่หนูยังไม่อยากให้ตัวเองเลื่อนสายเร็วเกินไป ยังอยากแข่งรายการแบบนี้เพื่อเก็บประสบการณ์เยอะๆ ช้าแต่ชัวร์ดีกว่าค่ะ”
ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม หากวันใดที่ น้องนัท พร้อมสำหรับเส้นทางมืออาชีพ เชื่อขนมกินได้เลยว่าสังเวียนของ วัน แชมเปียนชิพ จะมีนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานดาวรุ่งชาวไทยเลือดใหม่ ตามรอยศิษย์พี่ร่วมค่ายอย่าง “แสตมป์” และ “ยอดไก่แก้ว” แน่นอน