โรบินโญ่ อดีตกองหน้าซูเปอร์สตาร์ของบราซิล เพิ่งถูกตัดสินจำคุก 9 ปี จากเหตุการณ์ร่วมมือกับเพื่อนอีก 6 คน ล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวรายหนึ่งที่อิตาลี แน่นอนว่าในสายตาชาวโลกถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย และร้ายแรงยอมกันไม่ได้ ต้องถูกประณามสาปส่ง ทว่าปฏิกิริยาของคนที่บราซิลส่วนใหญ่กลับมองเฉย และเป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้สนใจกับพฤติกรรมของอดีตนักเตะทีมชาติรายนี้มากนัก
การกระทำของ โรบินโญ่ เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 สมัยค้าแข้งกับ เอซี มิลาน หอกเลือดแซมบ้า กับเพื่อนพ้อง ถูกดำเนินคดีข้อหากระทำชำเราหญิงสาวชาวอัลบาเนีย โดยถูกตัดสินจำคุก 9 ปี เมื่อปี 2017 พร้อมปรับเงินคนละ 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 2 ล้านบาท) แต่เนื่องจากมีการอุทธรณ์ และนักเตะก็อ้างว่าหญิงสาวเป็นฝ่ายยินยอม ทำให้ต้องมีการพิสูจน์กันยาวนาน
ปัจจุบัน แม้มีคำสั่งตัดสินจำคุก แต่เพราะกระบวนการยุติธรรมของอิตาลี มีการอุทธรณ์ 4 ระดับ ดังนั้น โรบินโญ่ ยังไม่ต้องเข้าคุกตอนนี้ ทว่าก็ไม่สามารถประกอบอาชีพที่ถนัดได้ ก่อนหน้านี้ แข้งวัย 36 ปี สะบัดหมึกเซ็นสัญญาเล่นกับ ซานโตส ทีมดังที่บ้านเกิด แต่เพราะมีมลทินติดตัวจากคดีความ ทำให้สปอนเซอร์รายหนึ่งของสโมสร ขู่ถอนตัวเพราะไม่อยากให้แบรนด์ตัวเองพัวพันกับทีมที่สนับสนุนนักเตะที่ทำร้ายผู้หญิง ส่งให้สัญญาถูกระงับและกลายเป็นคนว่างงาน
โรบินโญ่ ถูกกลุ่มองค์กรสิทธิสตรีในประเทศ รุมประณามสาปส่ง แต่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์สั้นๆว่ารู้สึกเสียดายที่การเรียกร้องเหล่านี้ทำให้ตนเองไม่สามารถลงเตะกับ ซานโตส ได้ ทั้งที่อ้างว่ายอดทีมดังของบราซิลสนับสนุนเต็มที่และไม่สนใจกับอดีตเลวร้ายที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การกระทำของอดีตกองหน้า รีล มาดริด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไม่ได้ส่งผลต่อความนิยมชมชอบของแฟนฟุตบอลในประเทศบ้านเกิดมากนัก เพราะที่ บราซิล ฟุตบอล คือกีฬาประจำชาติ ดินแดนแห่งอเมริกาใต้นี้คือถิ่นกำเนิดแข้งระดับตำนานอย่าง เปเล่, ริวัลโด้, โรนัลโด้, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, โรนัลดินโญ่, กาก้า หรือสตาร์ยุคปัจจุบันอย่าง เนย์มาร์ ซึ่งถูกยกย่องเป็นไอดอลของเด็กๆ ที่พยายามใช้ฟุตบอลนำทางไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า
นักฟุตบอลในบราซิล ส่วนมากมาจากครอบครัวที่ยากจน ชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก ดังนั้นเมื่อใครก็ตามที่สามารถพัฒนาฝีเท้า ยกระดับตัวเองเป็นนักเตะระดับชาติ หรือโยกย้ายไปค้าแข้งกับทีมยักษ์ในต่างประเทศได้ พวกเขาก็จะได้รับการสรรเสริญเชิดชูจากเด็กๆ และแฟนบอลที่เฝ้ามองดูพวกเขาอยู่ แม้จะกระทำเรื่องผิดร้ายแรงอะไรมา ทุกคนก็พร้อมมองข้ามและให้กำลังใจแบบค้านสายตาชาวโลก
นักเตะบราซิล เมื่อมีชีวิตที่ร่ำรวยขึ้นจากการไล่หวดลูกหนัง หากคุมชีวิตตัวเองไม่อยู่ก็เสียผู้เสียคนทันที มีแข้งแซมบ้ามากมายที่กลายเป็นข่าวฉาว ปาร์ตี้ เสพยา มั่วหญิง ซึ่งนั่นก็นำมาสู่ปัญหาฟอร์มตก ร่างกายไม่ฟิตเหมือนเดิม หนักสุดถึงขั้นลงมือทำร้าย ไม่ให้เกียรติผู้หญิง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นประจำ ยกตัวอย่างกรณีของ โรนัลดินโญ่ เหยินน้อยจอมเทคนิค มีข่าวมั่วผู้หญิง คบซ้อน ไม่ให้เกียรติ เปย์เงินให้สาวๆ จนหมดตัว
เดือนตุลาคม ปี 2019 เวสลีย์ พิออนเท็ก กองหน้ากึ่งปีกชาวบราซิลของทีม เรด บูลล์ บรากันติโน่ เปิดตัวลงเล่นกับต้นสังกัดได้เพียงไม่กี่วัน ก็ถูกตัดสินจำคุก 16 เดือน ข้อหาทำร้ายร่างกายแฟนสาว โดยต้องชดใช้ความผิดแบบไม่มีการอุทธรณ์
นอกจากนี้ยังมีคดีสะเทือนขวัญในปี 2010 เมื่อ บรูโน่ เฟอร์นานเดส เดอ ซูซ่า ผู้รักษาประตูของทีมฟลาเมงโก้ ถูกตัดสินจำคุกยาว 22 ปี ข้อหาฆาตกรรม เอลิซ่า ซามูดิโอ อดีตแฟนสาว ด้วยการบีบคอจนตาย ก่อนใช้มีดสับร่างเป็นชิ้นๆ แล้วโยนเป็นอาหารให้แก่สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่เลี้ยงไว้ คดีนี้เป็นข่าวใหญ่โตระดับประเทศ ทว่าเมื่อถึงปี 2017 นายประตูใจอำมหิตนี้ก็ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ และมีทีมฟุตบอลเซ็นสัญญาดึงไปเฝ้าเสาต่อ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์รุนแรง
“ผมไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมา” บรูโน่ ให้สัมภาษณ์หลังได้งานใหม่ และตอนนี้เขาก็ยังคงเล่นอยู่กับทีม ริโอ บรังโก้ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และยังมีแฟนบอลคอยตามเชียร์ ขัดกับกลุ่มองค์กรสิทธิสตรีที่รุมประณามด่าทอผู้คนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวนักฟุตบอลในคราบฆาตกรแบบอยุติธรรม
โมนิก้า ซาปูคาเอีย มาคาโด้ ศาสตรจารย์ด้านกฏหมายการเมือง และนักคุ้มครองสิทธิสตรี เผยว่า “ฟุตบอลคือกีฬาที่ยิ่งใหญ่ในทุกประเทศ แต่ที่บราซิล มันเป็นดั่งศาสนา ปัจจุบันทุกพื้นที่ในบราซิล มีผู้กระทำผิดและใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงมากมาย อย่างไรก็ตาม น่าเศร้าที่ชาวบราซิเลียนกลับยอมรับเรื่องนี้ได้”
เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคดีหญิงสาวถูกข่มขืนโดยนักธุรกิจรายหนึ่งที่มีเส้นสายและเป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอล ซึ่งหลายสโมสรในบราซิล ร่วมกันส่งเสียงให้กำลังใจเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ยกเว้น ซานโตส ที่แม้จะเคยออกแคมเปญรณรงค์เรื่องต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับเพศหญิง แต่พวกเขาเลือกที่จะเงียบไม่ออกแอ็คชั่นอะไร ทำให้ เคลลี โกเมส โฆษกหญิงและเป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี รู้สึกผิดหวัง
“สิ่งที่พวกเขาทำมันย้อนแย้งต่อการรณรงค์ในอดีตเหลือเกิน ขณะเดียวกัน การตัดสินใจระงับสัญญากับ โรบินโญ่ ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าพวกเขาให้ความเคารพต่อผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ แต่เพราะต้องการรักษาสปอนเซอร์เอาไว้เท่านั้น” โกเมส ระบายความอึดอัด
ทุกวันที่ 10 ตุลาคม ในบราซิล คือวันแห่งการต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ต่อต้านความรุนแรงต่อเพศหญิง แม้บราซิล จะถูกขนานนามให้เป็นประเทศแห่งอาชญากรรม เพราะมีเหตุฉกชิงวิ่งราว ทำร้ายร่างกาย ความรุนแรงต่อผู้หญิงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง กระนั้นด้วยโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป กลุ่มองค์กรสิทธิสตรี ก็มีความหวังว่าพวกเธอจะเปลี่ยนความคิดของชาวบราซิลได้ทีละเล็กละน้อย และเห็นความสำคัญต่อการให้เกียรติเพศหญิง ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ชายธรรมดา แต่รวมถึงเหล่านักฟุตบอลบราซิลและสโมสรฟุตบอลที่ยังคงเห็นผู้หญิงเป็นเครื่องระบายอารมณ์ด้วย