นับหมื่นร่วมวิ่งงานใหญ่ "บางแสน21" ฉลองรับ "โกลด์ ลาเบล" ท็อป 5 เอเชีย หนึ่งเดียวของไทย

งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน 21 จัดใหญ่ ฉลองรับรางวัลมาตรฐานระดับโลก เวิลด์ แอธเลติคส์ โกลด์ ลาเบล โรด เรซ นับเป็นรายการแรก และหนึ่งเดียวในไทย พร้อมขึ้นแท่นท็อป 5 ของเอเชีย ระเบิดศึกปีที่ 6 มีนักวิ่งนับหมื่นคนเข้าร่วมชิงชัย ภายใต้มาตรการคุมเข้มโควิด-19 สูงสุด พร้อมตอกย้ำต้นแบบเมืองสุขภาพ และเมืองกีฬา รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองแสนสุข, จังหวัดชลบุรี และประเทศไทย

น.ส.ชลันดา ชอบจิตร ผู้อำนวยการกองบริหารงานและมาตรฐานกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข, นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการการแข่งขัน, ดร.นพ.เกษม ใช้คล่องกิจ ศัลยแพทย์ด้านกระดูกและข้อ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา โรงพยาบาลพญาศรีราชา ในฐานะผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของการแข่งขัน ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน 21 ที่โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563

นอกจากนี้ ยังมีพิธีรับมอบรางวัล “เวิลด์ แอธเลติคส์ โกลด์ ลาเบล โรด เรซ” จากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ ให้กับงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน 21 โดยมี นาวาเอก ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นตัวแทนจากสหพันธ์ฯ ในการมอบรางวัล และมี นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม กับ นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร เป็นผู้รับมอบรางวัลดังกล่าว

การแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน 21 เป็นงานวิ่งฮาล์ฟมารอนรายการแรก และรายการเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลงานวิ่งมาตรฐานระดับโลก “เวิลด์ แอธเลติคส์ โกลด์ ลาเบล โรด เรซ” จากสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ โดยการแข่งขันปีนี้จัดเป็นปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด “The Finest Running Event Ever” จัดวิ่งวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ชิงชัยระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. ออกสตาร์ท และเข้าเส้นชัยที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมบางแสน เฮอริเทจ โดยมีจำนวนนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 10,000 คน พร้อมมาตรการคุมเข้มเรื่องการป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดสูงสุด

น.ส.ชลันดา ชอบจิตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับงานฮาล์ฟมาราธอนบางแสน 21 ที่ได้รับรางวัลมาตรฐานระดับโลก ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในพันธกิจของ กกท. และเป็นก้าวสำคัญของวงการกีฬาวิ่งไทย ที่มีสนามวิ่งมาตรฐานระดับโลกให้นักวิ่งได้พัฒนาการวิ่ง รวมถึงนักกีฬาอาชีพได้ฝึกฝน และพัฒนาฝีเท้าเพื่อแข่งขันในสนามระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นศักยภาพของอีกหลายสนามในไทย ที่สามารถนำสนามบางแสน 21 ไปเป็นต้นแบบในการพัฒนาเพื่อไปสู่มาตรฐานระดับโลกต่อไป
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล กล่าวว่า ททท. มีนโยบายสนับสนุนกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนดูแลสุขภาพสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมวิถีใหม่ ซึ่งการที่งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน 21 ได้รับรางวัลมาตรฐานระดับโลกจะเป็นการปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลในการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม กล่าวว่า ปีนี้จัดเป็นปีที่ 6 แล้ว ซึ่งภูมิใจที่งานวิ่งบางแสน 21 สามารถคว้ารางวัลมาตรฐานงานวิ่งระดับโลก และก้าวสู่งานวิ่งท็อป 5 ของเอเชีย นับเป็นการสร้างชื่อเสียง และก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่เมืองแสนสุข รวมถึงจังหวัดชลบุรี และประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักในวงการวิ่งระดับโลกมากขึ้น คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักวิ่งต่างชาติให้เข้าร่วมเพิ่มอีกจำนวนมาก ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของการจัดงานที่อยากเห็นนักวิ่งจากทั่วโลกเดินทางมาวิ่งในไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวของจังหวัดเป็นการตอกย้ำว่าเทศบาลเมืองแสนสุข และชลบุรีเป็นเมืองสุขภาพ และเมืองกีฬาอย่างแท้จริง
นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของไมซ์ และเทศบาลเมืองแสนสุข ที่สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนา และต่อยอดงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน 21 ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จนได้รับรางวัลโกลด์ ลาเบล พร้อมขึ้นแท่นทำเนียบงานวิ่งท็อป 5 เอเชีย เคียงคู่กับ จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากนี้จะมีทั้งนักวิ่งอีลิทระดับโลก และนักวิ่งต่างชาติ สนใจมาเข้าร่วมอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ บางแสนเป็นเมืองที่ได้รับรางวัลจัดงานวิ่งถนน ที่ได้มาตรฐานโลก ครบทั้ง 3 ระยะ คือ มินิมาราธอน 10 กม., ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และ มาราธอน 42.195 กม. กลายเป็นเมืองแรกในเอเชียที่ติด 1 ใน 5 ของโลก ที่มีรางวัลดังการันตีมาตรฐานครบทั้ง 3 ระยะ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเมืองที่อยู่ในยุโรป ได้แก่ มาดริด และบาเลนเซีย ประเทศสเปน, ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และปราก สาธารณรัฐเช็ก

“การจัดงานวิ่งสร้างสิ่งดีๆ ให้กับประเทศได้มากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพเท่านั้น แต่คนที่สามารถวิ่งจบระยะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ เมื่อมีจิตใจที่แข็งแกร่งก็จะสามารถเผชิญปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะผลักดันให้การวิ่งกลายเป็นกีฬายอดนิยม 1 ใน 5 ของคนไทยให้ได้ และคิดว่าฝันนี้จะไม่ไกล เนื่องจากขณะนี้ผู้จัดงานวิ่งทั่วประเทศได้รวมตัวกันจัดตั้ง สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย โดยผมนั่งเป็นนายกสมาคมสมัยแรก ซึ่งพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจงานวิ่งระดับโลกในไม่ช้า” นายรัฐ กล่าว
​ดร.นพ.เกษม ใช้คล่องกิจ กล่าวว่า ทางฝ่ายแพทย์ ได้ทุ่มเทจัดเตรียมความพร้อมระบบแพทย์ฉุกเฉินสมบูรณ์แบบที่สุดตามมาตรฐานสากลโลก นานกว่า 6 เดือน เพื่อดูแลรักษาการบาดเจ็บ และการเจ็บป่วยครอบคลุม ทั้งก่อนการแข่งขันจนกระทั่งเสร็จสิ้นงาน โดยบุคลากรมืออาชีพจากสหสาขาวิชา และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย นอกจากนั้น ในปีนี้ ยังได้เตรียมความพร้อมการบริหารจัดงานภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทุกภาคส่วนจะปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดสูงสุด ดังนั้น ขอให้นักวิ่งทุกคนมั่นใจว่า งานวิ่งบางแสน21 จะคงความสนุกที่ควบคู่ไปกับความปลอดภัยแน่นอน