คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
การที่เราได้เห็นสโมสรฟุตบอลตัวแทนจากประเทศไทย อย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ในฐานะแชมป์ไทยลีก 2019 ที่นำทัพโดยนักเตะดีกรีทีมชาติไทย อย่าง ศิวกรณ์ เตียตระกูล, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เอกนิษฐ์ ปัญญา หรือแม้แต่ ธีราทร บุญมาทัน แห่ง โยโกฮาม่า เอฟซ มารินอส แชมป์เจลีก 2019 ได้ออกไปโลดแล่นศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียรายการใหญ่ที่สุดอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นนับเป็นความภูมิใจในฐานะคนไทย
และยิ่งผู้เล่นทั้งหลายเหล่านี้สามารถสร้างผลงานจนเป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะการที่ เชียงราย ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ เอฟซี โซล 2-1 และ เสมอ เมลเบิร์น วิคตอรี่ 2-2 อย่างสนุก และสมศักดิ์ศรี หรือการที่ ธีราทร สามารถยิงประตูสุดสวยกับ มารินอส และยังคว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ แถมฟอร์มยังดีเด่นจนมีชื่อเป็นตัวเลือกในการโหวตผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำสัปดาห์ของการแข่งขันรายการนี้ ย่อมนำมาซึ่งความภูมิใจอันล้นพ้นเป็นทวีคูณ
แม้ว่าศึก ACL ปีนี้ จะยังมีหนทางอีกยาวไกล สำหรับ ธีราทร กับ มารินอส หรือเส้นทางของ เชียงราย จะยุติเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม แต่โควต้าของ ไทยลีก เพื่อลุยรายการนี้ในปีหน้า 4 ทีม อาจจะยังไม่จบฤดูกาล แต่การที่มีประกาศจากฝ่ายจัดว่า จะนับเฉพาะผลเลกแรก เพื่อนำ 4 อันดับทีมนำไปเล่นในฤดูกาลหน้า ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า อันดับ 1 ของเลกแรก ไม่หนีสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แน่นอนแล้ว ขณะที่ อันดับ 2 การท่าเรือ เอฟซี ที่มี 31 แต้ม และเหลือโปรแกรม 2 นัด ก็ขอแค่ 1 แต้ม จากนัดที่ต้อง เปิดบ้านรับ ราชบุรี เอฟซี กับ บุกเยือน สมุทรปราการ ซิตี้ ก็จะได้สิทธิ์เข้ารอบแบ่งกลุ่มอัตโนมัติเช่นกัน
ส่วนที่ยังต้องลุ้นหนักคือ อันดับ 3 และ อันดับ 4 ซึ่งแม้ต้องดิ้นรนแข่งขันรอบคัดเลือก โดยทีมอันดับ 3 จะเล่นรอบเพลย์ออฟ ในบ้านเพียง 1 นัดก็จะรู้ผลเข้ารอบแบ่งกลุ่มทันที ขณะที่อันดับ 4 ต้องเล่นรอบคัดเลือก รอบ 2 ในฐานะทีมเหย้า หากชนะก็จะเล่นรอบเพลย์ออฟ ในฐานะทีมเยือน
โดยขณะนี้หากมองจากอันดับคะแนนของทีมที่มีลุ้นคว้าอันดับ 3 และ อันดับ 4 ของศึกไทยลีก จะเห็นว่า มี 3 ทีมที่เข้าข่าย ประกอบด้วย
อันดับ 3 ราชบุรี เอฟซี แข่ง 13 นัด มี 26 คะแนน (เหลือ 2 นัด จบ เลกแรก)
อันดับ 4 เชียงราย ยูไนเต็ด แข่ง 14 นัด มี 26 คะแนน (เหลือ 1 นัด จบเลกแรก)
อันดับ 5 แบงค็อก ยูไนเต็ด แข่ง 13 นัด มี 20 คะแนน (เหลือ 2 นัด จบเลกแรก)
ทั้งนี้ หากว่า ราชบุรี และ เชียงราย เก็บได้เพียง 1 แต้ม ในโปรแกรมเลกแรกที่เหลือ ก็หมายความว่า ต่อให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด เก่งกาจขนาดเก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดที่เหลือ ก็ไล่ไม่ทันแน่นอน ดังนั้นทั้ง 2 สโมสรในอันดับ 3 และ 4 จึงได้เปรียบอยู่พอสมควร
สำหรับทีม ราชบุรี เอฟซี นี่จัดว่าน่าจับตาว่าจะเป็นตัวแปรหรือไม่ เพราะ 2 นัดที่เหลือ ต้องเจอทีม การท่าเรือ เอฟซี กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แม้ว่าจะหนัก แต่หากเอาชนะได้ทั้ง 2 นัด แล้ว การท่าเรือ แพ้รวดนี่มีสิทธิ์ชีวิตเปลี่ยนเลย เพราะจะกลายเป็น "ราชันมังกร" นี่แหละที่ได้สิทธิ์ลุยรอบแบ่งกลุ่มแทน
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จัดว่าเป็นขาใหญ่ของไทยลีก ต้องวืดตั๋วเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังผ่าน 13 นัด ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 6 นัด มีเพียง 17 คะแนน รั้งอันดับที่ 8 ของตาราง เรื่องนี้แม้แต่ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร เองก็ยอมรับว่าทีมสอบตกจริงๆ...
