คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เรื่องราวของ ลิโอเนล เมสซี สตาร์ลูกหนังอาร์เจนไตน์ เพิ่งจะจบตอนแรกด้วยความไม่เต็มใจอยู่รับใช้ บาร์เซโลนา อีก 1 ปี แน่นอนว่าจบฤดูกาล 2020-21 อาจจะมีภาคต่อ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ว่า สามารถแจ้งย้ายสังกัด วันที่ 10 มิถุนายน ดังที่เป็นข่าว หากไม่ถูก โควิด-19 ระลอก 2 เข้ามาปั่นป่วนการแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรปเสียก่อน
ราว 1 เดือนก่อน เคยเทียบเคียงสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันของ นักเตะ บัลลง ดอร์ 6 สมัย กับ ยานนิส อันเตโตคุมโป ซูเปอร์สตาร์ มิลวอคกี บัคส์ ซึ่งทั้งคู่ขาดสิ่งที่เรียกให้ฟังดูเลิศหรูสักหน่อย คือ “Supporting Cast” หรือตัวประกอบที่ดีเพียงพอ และ เมสซี ในวัย 33 ปี แสดงออกอย่างชัดเจนว่า จะไม่ทนอีกต่อไป ตามบทสัมภาษณ์ว่า ยังต้องการประสบความสำเร็จระดับสูง เช่น ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แล้ว ยานนิส ที่อายุเพิ่งจะ 25 ย่าง 26 จะมีความคิดแบบเดียวกันหรือไม่ ???
ประเด็นของ เมสซี คงจะมีภาคต่ออย่างแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการคุมทีมของ โรนัลด์ คูมัน กุนซือคนใหม่ จะปลุก ยักษ์ใหญ่แห่งกาตาลัน กลับมาทวงคืนสถานะโคตรทีมแห่งยุโรปได้หรือไม่ แต่ตามความเห็นส่วนตัว บอกตามตรงเลยว่า ตอนนี้ บาร์เซโลนา ที่เคยเกรียงไกร อาจกลายเป็น เอซี มิลาน แห่งสเปน ที่จะตกต่ำอย่างน่าใจหาย ลองดูสิ แค่นักเตะอย่าง เมมฟิส เดปาย ปีกชาวดัตช์ โอลิมปิก ลียง หรือ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ยังไม่มีปัญญาซื้อเลย ตามคำกล่าวของ ฌอง มิเชล ออลาส ประธาน ลียง ระบุว่า พวกเขาไม่มีเงิน
วกกลับมาที่ “กรีก ฟรีก” นับตั้งแต่สายตะวันออก ปราศจากบุรุษที่มีชื่อว่า เลอบรอน เจมส์ หลังย้ายไป แอลเอ เลเกอร์ส เมื่อปี 2018 มิลวอคกี คือ ทีมที่ก้าวขึ้นมาครองอันดับ 1 ของคอนเฟอเรนซ์ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ทว่าบทสรุป คือ ทีมของ ไมค์ บูเดนโฮลเซอร์ ล้มเหลวช่วงเพลย์ออฟ 2 ฤดูกาลรวดเช่นกัน และพอเข้าสู่ฤดูกาล 2020-21 ก็น่าจะเกิดกระแสข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของ ยานนิส ที่จะเป็นฟรีเอเจนต์ ช่วงซัมเมอร์หน้า ตราบใดที่ยังไม่มีการต่อสัญญาระยะยาว
ปัจจุบัน ยานนิส พิสูจน์ตัวเองว่า เขาคือคนที่ก้าวมาเป็นเบอร์ 1 ของบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) หากหมดยุค “คิงเจมส์” ด้วยเกียรติยศส่วนตัวต่างๆ นานา อาทิ ผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยม 2017, ติดทีมยอดเยี่ยม, ทีมป้องกันยอดเยี่ยม, ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยม และ ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ฤดูกาลปกติ 2 สมัย จะขาดอยู่ก็แค่ รอบชิงชนะเลิศ กับ แหวนแชมป์ เท่านั้น ซึ่งดูมีคุณค่ามากกว่า สัญญาใหม่ราว 200-250 ล้านเหรียญ
ผมเคยเห็นการ์ตูนล้อเลียนทางเพจ NBA เพจหนึ่ง ต้องขออภัยที่จำชื่อ หรือคนโพสต์ไม่ได้ เป็นภาพ ยานนิส วิ่งตีคู่มากับ เลอบรอน แล้วหยุดที่ฉวยโทรฟี MVP ส่วน เลอบรอน วิ่งต่อเพื่อไล่ล่า “แพะ” แปลเป็นอังกฤษว่า “GOAT” ตามภาษาแสลงจากคำย่อของ “Greatest of All Time” หรือ สุดยอดตลอดกาล บางทีมันก็ดูเป็นตลกร้ายสำหรับแฟนคลับของ ฟอร์เวิร์ดชาวกรีซ รายนี้
ถึงตอนนี้ผมคงไม่กล้าฟันธงอะไร เพราะรู้สึกว่าตัวเองเสียสุนัขมาพอสมควรแล้ว ประกอบกับเวลานี้ มันยังด่วนสรุปเกินไป ใครก็ตามที่เป็นแฟน “เจ้ากวาง” ต้องรอดูความเคลื่อนไหวช่วงออฟซีซัน น่าจะเป็นเดือนตุลาคมว่า ฝ่ายบริหาร มิลวอคกี จะสามารถดึงสร้างขุมกำลังรายล้อม ยานนิส ได้ดีแค่ไหน ทว่าปัญหาอยู่ที่ Salary Cap (เพดานเงินเดือน) ที่ใช้จ่ายไปแล้วมากกว่า 132 ล้านเหรียญ
ตราบใดที่รอยประของสัญญา ยังไม่มีลายเซ็น ย่อมมีความเป็นไปได้เสมอว่า ยานนิส จะอำลาถิ่น ไฟเซิร์ฟ ฟอรัม เบื้องต้นเท่าที่ติดตามสื่อต่างประเทศ ก็มีทีมที่ถูกจับตามองว่า จะเป็นสถานีต่อไปของ ยานนิส อย่าง ไมอามี ฮีต หรือ โตรอนโต แร็พเตอร์ส เนื่องจากทั้งคู่มีเพดานเงินเดือนเพียงพอ โดยเฉพาะ ไมอามี ต้องบอกว่า พวกเขามาได้ไกลเกินคาด ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ สายตะวันออก ทั้งๆ ที่มีดาวดังอย่าง จิมมี บัตเลอร์ เพียงคนเดียว ขณะที่ โตรอนโต อาจจะยึดติดนโยบายปั้นดินให้เป็นดาว แต่ถ้าอยากทวงแชมป์ ก็จำเป็นต้องพึ่งพาซูเปอร์สตาร์
เบื้องต้นขอแทงโอกาส ยานนิส อำลาถิ่น ไฟเซิร์ฟ ฟอรัม ไว้ก่อนสัก 90-10 หรือ 80-20 ถึงอย่างไร บัคส์ ก็อยู่ระดับเต็งแชมป์ เพียงแต่อนาคต ทีมอาจถึงทางตัน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องเพดานเงินเดือน และบรรดาเจ้าของทีม คงไม่ต้องการแบกรับภาษีฟุ่มเฟือยนานนัก หากทีมชุดนี้ยังไม่ถึงฝัน มีสิทธิ์ต้องล้างบางแล้วปลุกปั้นขึ้นใหม่ ตราบใดที่สัญญายังไม่เซ็น อะไรๆ ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ