หลังจากที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ตัดสินใจย้ายจาก โอเฮช ลูเวิน แห่งลีกเบลเยียม สู่สโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร แห่งเจลีก ด้วยสัญญายืมตัว
ทว่าจากระยะเวลาที่ กวินทร์ วัย 30 ปี ร่วมทีม "นกเค้าแมวเมืองเหนือ" ประเทศญี่ปุ่น นั้น ผ่านการแข่งขันเจลีกมาแล้วครึ่งฤดูกาล ยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามในลีกแดนอาทิตย์อุทัยแม้แต่นัดเดียว
โดย กวินทร์ ได้รับโอกาสลงสนามในฐานะตัวจริงจากฟุตบอลถ้วย ลูวาน คัพ 2 นัด และกับทีมสำรองอีก 1 นัด รวมแล้วเป็น 3 นัด ส่วนในลีกก็ยังคงเป็นเพียงมือ 2 ของ ทากาโนริ ซูเกโนะ นายทวารวัย 36 ปี
ขณะที่สัญญายืมตัวของ กวินทร์ กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะหมดในวันที่ 31 ธันวาคม 2020 ซึ่งการกลับสู่ต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง โอเอช ลูเวิน เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะมีผู้รักษาประตูถึง 3 รายที่ขวางทางอยู่ อาทิ ดาร์เรน คีท นายทวารดีกรีทีมชาติแอฟริกาใต้, ดาเนียล อิเวอร์เซน นายทวารชาวรุ่ง ที่ติดทีมชาติเดนมาร์กระดับเยาวชนมาแล้วแทบทุกชุด ซึ่งยืมตัวมาจากเลสเตอร์ ซิตี้ และ ราฟาเอล โรโม่ นายทวารดีกรีทีมชาติเวเนซูเอล่า
ทั้งนี้ กวินทร์ ยังมีสัญญากับ โอเอช ลูเวิน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2023 ซึ่งดูแล้วมีความเป็นไปได้เพียง 2 ทางเท่านั้น คือ ขยายสัญญายืมตัว เพื่ออยู่เป็นมือ 2 ของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร หรือ ย้ายกลับสู่ไทยลีก หลังจบสัญญายืมตัว ด้วยสัญญายืมตัว หรือขายขาด
และหากว่า กวินทร์ เลือกที่จะยอมเป็นมือ 2 ของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ต่อไป น่าจะส่งผลต่อตำแหน่งมือ 1 ในทีมชาติไทย เนื่องจากโค้ชส่วนใหญ่ย่อมเลือกผู้เล่นจากฟอร์มการลงสนามอย่างสม่ำเสมอมากกว่าผู้เล่นที่มักออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองอยู่แล้ว