คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
เรื่องการทำงานโค้ชในวงการฟุตบอล "ความต่อเนื่อง" ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่บ่อยครั้งในวงการลูกหนังบ้านเราข่าวคราวการปลดโค้ชมักเป็นทางออกของทุกปัญหา แม้ฤดูกาล 2020 ผ่านมาแค่ 3 นัด ระยอง เอฟซี ก็ต้องแยกทางกับ "โค้ชชู" ชูศักดิ์ ศรีภูมิ หลังนำทีมแพ้ 3 นัดรวด ถึงทุกวันนี้เปลี่ยนเป็น อาร์เธอร์ เบอร์นาร์เดส ผู้ฝึกสอนชาวบราซิล ก็ยังไร้ชัยต่อเนื่อง
แต่หากนำไปเทียบกับฟุตบอลเจลีก ที่ต้องยอมรับเรื่องมาตรฐานในทุกด้านว่าเขาสูงกว่าเราแน่ๆ ผ่านมาแล้ว 17-18 นัด ถือว่าผ่านมาครึ่งทางทีมที่มีนักฟุตบอลไทยไปค้าแข้ง อาทิ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส (แชมป์เก่า), ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร และ ชิมิสุ เอสพัลส์ ล้วนผลงานไม่ค่อยดีนักช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ต่างมีแฟนบอลไปคอมเม้นท์ให้เปลี่ยนโค้ชกันทั้งนั้น
ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนโค้ชนั้น ไม่ใช่แต่แฟนบอลที่คิด เพราะสื่อมวลชนในเจลีก เขาก็ "คิด วิเคราะห์ แยกแยะ" กันอยู่เหมือนกัน ยกตัวอย่างทีม ชิมิสุ เอสพัลส์ ที่ตอนนี้รั้งอันดับบ๊วยของลีกอย่างสนิทแน่นนั้น มี ปีเตอร์ ชคลามอฟสกี้ กุนซือชาวออสเตรเลีย คุมทีม โดยกุนซือวัย 41 ปี มีผลงานการคุมทีม ชิมิสุ เอสพัลส์ ไปแล้วทุกรายการ 20 นัด ชนะแค่ 2 นัด เสมอ 3 และแพ้ถึง 15 นัด
แต่ทำไมจึงไม่โดนปลด ก็ต้องลองไปดูที่โปรไฟล์ก่อนหน้านี้เขาเคยผ่านงานระดับทีมชาติด้วยการคุมออสเตรเลีย ยู 17 และผู้ช่วยทีมชาติออสเตรเลีย ก่อนบินมารับงานผู้ช่วยโค้ช อันเก้ ปอสเตโคกลู เพื่อนร่วมชาตินำทีม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เป็นแชมป์เจลีก ฤดูกาล 2019 ดีกรีระดับนี้ จะหาใหม่ที่ดีกว่านี่ผมว่ายากนะครับ
ส่วนอีกคนที่สื่อและแฟนบอลมองว่าเก้าอี้ร้อนมาก คือ "โค้ชมิช่า" มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือเสือเฒ่าแห่ง ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มาปีแรกคุมทีมฤดูกาล 2018 นำทีมจบที่อันดับ 4 ของตารางคะแนน ฤดูกาล 2019 จบอันดับ 10 ของตารางคะแนน แต่ก็พาทีมเข้าชิงฟุตบอลถ้วย ลูวาน คัพ 2019 แม้จะผิดหวัง ทว่าตำแหน่งรองแชมป์มันไม่ได้ดูขี้เหร่เลย
ส่วนปี 2020 ผลงานอาจไม่ค่อยดีนักเมื่อผ่าน 17 นัด มี 17 คะแนน โดยก่อนหน้านี้อยู่ในสถานการณ์ค่อนข้างกดดัน เมื่อไม่ชนะใครในลีกมาแล้วถึง 9 นัดด้วยกัน ขนาดว่าเจ้าตัวออกมายอมรับสภาพว่าพร้อมให้บอร์ดสโมสรพิจารณาผลงาน แต่ไม่ทันไร ฮิโรคัตสึ มิคามิ ผู้อำนวยการกีฬาของทีมออกมาแสดงจุดยืนว่ายังคงมั่นใจในกรรทำงานของ มิไฮโล เปโตรวิช เหมือนเดิมหลังเข้ารับตำแหน่งคุมทีมเป็นปีที่ 3 แล้ว ยืนยันไม่ได้ตัดสินใครจากผลการแข่งขันเท่านั้น
จะว่าไปก็มีกุนซือหลายคนที่ทำทีมอยู่ในฟอร์มไม่ค่อยน่าพอใจนัก แต่สื่อญี่ปุ่นเขาเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงโค้ชตอนนี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมายืนยันว่าไม่ค่อยครั้งเลยที่เปลี่ยนโค้ชแล้วฟอร์มดี ในเมื่อโค้ชเก่าเขาทำงานสร้างทีมซื้อตัวผู้เล่นที่ต้องการมาตามแผนที่เสนอกับบอร์ดสโมสร แล้วจู่ๆ พอทีมเล่นไม่ได้ตามที่คาดไว้ ก็เปลี่ยนให้โค้ชใหม่มาทำงานตามแผนงานของคนเก่ามันเป็นเรื่องยากมากที่ฟอร์มจะกระเตื้องขึ้นทันที แถมปีนี้ต่อให้เล่นแย่อย่างไรก็ไม่มีทีมตกชั้น สู้ทนๆ กันไปให้จบฤดูกาลแล้วค่อยว่ากันใหม่ดีกว่า
