คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
หลังจากที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตัดสินใจย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สู่ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมแชมป์เจลีก 2 ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่เจลีก 1 ตอนนั้นถือว่าเป็นย่างก้าวที่น่าจับตาของวงการฟุตบอลไทย ว่านักฟุตบอลของเราจะสามารถก้าวสู่ลีกระดับแถวหน้าของทวีปเอเชียได้หรือไม่ หากทำได้ก็จะเป็นการเปิดประตูสู่ลีกญี่ปุ่นของนักเตะไทยได้อย่างแท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้นักฟุตบอลจากอาเซียนหลายคนก็ได้รับเชิญสู่ลีกแดนอาทิตย์อุทัย แต่ก็ตกม้าตายกันหมด
และเมื่อกาลเวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์ผลงานของ ชนาธิป บนเวทีเจลีก เราก็ได้เห็นนักฟุตบอลไทยอีกหลายคนเดินก้าวตามความสำเร็จนี้ไป ไม่ว่าจะ ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ธีรศิลป์ แดงดา จนประวัติศาสตร์จารึกชื่อของ ธีราทร ในฐานะ แข้งไทยคนแรกที่ได้แชมป์เจลีก
ก็ถึงเวลาที่ ชนาธิป เตรียมขยับขยายสู่ลีกที่เหนือกว่าอย่าง ลีกยุโรป โดยเจ้าตัวให้เหตผลเรื่องความท้าทายครั้งใหม่ ในวัย 26 ปี ซึ่งเอเยนต์ใหม่ที่มีคอนเนคชั่นชั้นดีกับลีกบุนเดสลีก้า เยอรมัน ก็ตอบรับเป็นอย่างดีว่าเขาได้ยื่นโปรไฟล์ให้หลายสโมสรภาคพื้นยุโรปพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้มีแค่ทีมในเยอรมันอย่างที่เข้าใจกัน
สื่อหลายสำนักเองก็พากันตื่นเต้นว่าเรามีโอกาสได้เห็นนักฟุตบอลไทยกลับสู่ยุโรปอีกครั้ง หลังจากคนสุดท้ายที่เคยไปโลดแล่นได้เป็น "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่เคยได้รับโอกาสกับ โอเอช ลูเวิน (สมัยยังอยู่ในลีกรอง ประเทศเบลเยียม) ก่อนหน้านี้ก็มี ธีรศิลป์ แดงดา กับ อัลเมเรีย ลาลีก้า สเปน รวมถึงนักฟุตบอลจากย่านอาเซียน อาทิ เหงียน คอง เฟือง กับ แซงต์ ทรุยด็อง ที่ไปเล่นในลีกเบลเยียม และ ดวน วาน เฮา กับ ฮีเรนวีน ลีกเนเธอร์แลนด์ แต่ทุกคนก็ไม่อาจเบียดแย่งเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริง จนต้องถูกส่งกลับมาตั้งต้นกันใหม่
ซึ่งเมื่อมองดูจากโอกาสในการลงสนามของผู้เล่นจากอาเซียนแล้ว หลายๆ คนมีโอกาสน้อยมาก จนกลายเป็นไม่อาจปรับตัวกับทีมใหม่ได้ เรื่องนี้ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ ผอ.เทคนิคของ เวียดนาม ก็เคยบ่นไว้ว่าสโมสรยุโรปมักเอาแข้งอาเซียนไปดองจนเสียความมั่นใจและไม่อาจเล่นได้เหมือนเดิม
ดังนั้นช่วงเวลาที่สโมสรฟุตบอลทั่วโลกต่างประสบปัญหาทางการเงินจากผลกระทบเรื่องไวรัสโควิด-19 ความเป็นไปได้ในการดึงผู้เล่นมูลค่าสูงสุดจากอาเซียนย่อมมีความเป็นไปได้สูงมาก เพียงแต่สิ่งที่ต้องพิจารณาให้จงหนัก เนื่องจากดาวเตะหลายรายจากอาเซียนที่เคยเดินทางสู่ลีกยุโรปส่วนใหญ่กลายเป็นเพิ่มยอดติดทีมสโมสรจากช่องทางออนไลน์ และเพิ่มยอดถ่ายทอดสดกลับบ้านเกิดเท่านั้น
จะว่าไปนักฟุตบอลจากอาเซียนที่มีโอกาสลงสนามบ่อยที่สุดจากลีกยุโรป คงหนีไม่พ้น กวินทร์ กับ โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยียมเท่านั้น และเมื่อมองดูการที่ เบียร์ช็อต วิลไรจ์ก คว้าตัว มูซาชิ ซูซูกิ อดีตเพื่อนร่วมทีม คอนซาโดเล่ ของ ชนาธิป ไปร่วมทีมเมื่อไม่นานมานี้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับดาวเตะจากย่านอาเซียนแล้วแหละครับ