มีอะไรมากกว่า การปล่อยดาวยิง "คอนซะ" สู่ลีกยุโรปไหม? / แมวดำ

คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

การย้ายทีมของ มูซาชิ ซูซูกิ กองหน้าลูกครึ่งญี่ปุ่น-จาไมก้า จาก ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร สู่จูปิแลร์ โปรลีก ลีกสูงสุดของเบอลเยียม ด้วยการซบทีม เบียร์ช็อต วิลไรจ์ก น้องใหม่ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาพร้อมๆ กับ โอเอช ลูเวิน นั้นค่อนข้างมีประเด็นน่าสนใจพอสมควร

เรื่องแรกคือ ซูซูกิ วัย 26 ปี นั้นเป็นกองหน้าที่จัดว่าเด็ดดวงที่สุดในทีม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เพราะยิงประตูไปตั้ง 5 ประตู จากการลงสนามในเจลีก ฤดูกาล 2020 เพียงแค่ 4 นัดเท่านั้น ถือว่าเป็นดาวซัลโวประจำทีมก็ว่าได้ ขณะที่ผู้เล่นที่ทำประตูรองลงมากลับเป็น ทาคูมะ อาราโนะ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นที่ยิงไป 4 ประตู ส่วนกองหน้าคนอื่นๆ ก็ยิงประตูกันแบบจุ๋มจิ๋ม

- แอนเดอร์สัน โลเปซ (บราซิล) ยิง 1 ประตู ในลีกคัพ ส่วนเจลีกยังไม่ได้ยิง

- ลูคัส เฟร์นานเดส (บราซิล) ยิง 1 ประตูในเจลีก

- เจย์ โบธรอยด์ (อังกฤษ) ยิง 1 ประตูในเจลีก

พูดง่ายๆ คือฝากผีฝากไข้ได้ยาก แต่บอร์ดของ "นกเค้าแมวเมืองเหนือ" ก็ยังขายนักเตะรายนี้ออกไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนมีข่าวย้ายทีมใหม่ๆ สโมสรเองก็ออกมาให้ข่าวว่ายังไม่มีการตกลงกัน เพียงแค่การเจรจาเฉยๆ เท่านั้น

ประเด็นถัดมาหากจำไม่ผิดก่อนหน้านี้มีรายงานว่าสโมสรฟุตบอลในประเทศญี่ปุ่น ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก โดยเฉพาะสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร นี่แหละที่รายงานข่าวบอกชัดว่าเงินขาดมือจากวิกฤติโควิด -19 ตอนนั้นขนาดว่านักฟุตบอลในทีมยอมให้ลดเงินเดือน 6 เดือน รวมๆ แล้วเป็นเงิน 100 ล้านเยน แต่ก็ไม่พอ เพราะทีมขาดทุนอยู่ 149 ล้านเยน

ข่าวยังบอกอีกว่ามีการเรียกประชุมด่วนผู้ถือหุ้นสโมสร ตอนนั้นมีการคาดการณ์กันว่าหากจบฤดูกาลนี้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อาจมียอดขาดทุนหนักถึง 378 ล้านเยน ขณะที่ทรัพย์สินของสโมสรมีราว 500 ล้านเยน เรื่องนี้ทำให้เกิดข่าวลือว่าสโมสรเองตกเป็นข่าวว่าอาจจำเป็นต้องขายผู้เล่นตัวหลักออกจากทีม และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติไทยก็ตกเป็นเป้าหมายด้วย ก่อนที่สุดท้ายหวยจะมาออกที่ ซูซูกิ คู่หูของ "เจ" ที่ต้องย้ายออกไปแทน

การย้ายครั้งนี้นอกจากเป็นการขายขาดที่สโมสรจะได้เงินมาเยียวยาค่าใช้จ่ายในทีมแล้ว ยังถือเป็นการลดภาระค่าจ้างที่สโมสรต้องจ่ายให้กับผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งของสโมสรอีกด้วย ซึ่งปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่องในวงการฟุตบอลมันก็เกิดกันทั่วโลก โดย เจลีก เองก็พร้อมปล่อยเงินกู้ให้กับสโมสรเพื่อเอาตัวรอดในวิกฤติครั้งนี้ อีกทั้งยังเป็นการส่ง ซูซูกิ ไปพัฒนาฝีเท้าในลีกยุโรป เหมือนที่นักเตะทีมชาติญี่ปุ่นรายอื่นๆ เคยทำทางไปแล้ว

หากมองในแง่ดีเราก็ได้เห็นว่าสโมสรในยุโรปเขาให้ความสำคัญกับผู้เล่นในเจลีกพอสมควร ยิ่งสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยแล้ว ยิ่งมีคอนเน็คชั่นกับสโมสรในลีกเบลเยียมระดับที่ว่า ยืมง่าย (ยืม กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จาก โอเอช ลูเวิน) ขายคล่องกับ ลีกเบลเยียม อยู่แล้ว

จริงๆ ผมคงฟันธงไม่ได้ แต่คงไม่ผิดถ้าจะมีคนแอบฝันว่าอาจได้เห็นนักเตะความสูง 158 เซนติเมตร บางคนได้ย้ายไปโลดแล่นในยุโรปบ้างก็เป็นได้...