คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
หลังจาก “ตำปูปลาร้า” สำแดงพิษ เล่นเอาเจ้าเก่งพุงลดไป 3 นิ้ว ตอนนี้เลยหันมาอร่อยกัลป์ข้าวคลุกไข่ต้มเหยาะน้ำปลาดี รวมทั้งเมนูไข่ต่างๆตามคำแนะนำของพี่หมอ
- ไข่เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ เพราะทำเป็นอาหารง่ายและรับประทานกันได้ทุกเพศทุกวัย หน่วยงานทางด้านสุขภาพออกมาแนะนำให้รับประทานไข่กันวันละฟองพร้อมทั้งบอกถึงประโยชน์ของไข่ไว้หลายข้อ ดังนี้
1.ช่วยลดความดันโลหิต จากการศึกษาพบว่า เปบไทด์ในไข่สามารถลดระดับความดันโลหิตสูงลงได้
2.เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม ในไข่หนึ่งฟองมีโปรตีนอยู่ถึง6กรัม ถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับคนที่ไม่สามารถรับประทานเนิ้อสัตว์ได้
3.มีไขมันโอเมก้าสูง ซึ่งเป็นไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายแถมยังช่วยบำรุง หัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย
4.อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่สำคัญ ไข่ถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดอาหารที่ดีกับสุขภาพเหตุหนึ่งก็เพราะไข่เป็นแหล่งสะสมของกรดอะมิโนที่สำคัญถึง 9 ชนิดเลยทีเดียว
5.บำรุงสมองและระบบประสาท ในไข่เพียง 1 ฟอง มีโคลีน(Choline)มากถึง 20%ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งโคลีนเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้สมองและระบบประสาทแข็งแรง
6.อุดมด้วย ลูทีน(Lutein)และซีแซนทีน(Zeaxanthin)สารทั้งสองชนิดนี้เป็นสารแคโรทีนอยด์ที่มีความสำคัญกับสุขภาพดวงตา ทั้งนี้ยังช่วยปกป้องร่างกายจากสารอนุมูลอิสระและยังช่วยลดความเสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อมได้อีกด้วย
7.มีทริปโตเฟน(Tryptophan)และไทโรซีน(Tyrosine)ซึ่งกรดอะมิโน 2 ชนิดนี้ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ทริปโตเฟนยังเป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไปช่วยสร้างสารเซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้อารมณ์ดีและยังเปลี่ยนเป็นสารเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับอีกด้วย
8.ไข่มีแคลเซียมสูงถึง 50 มิลลิกรัมหรือ5%ของแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน ดังนั้นการรับประทานไข่ทุกวันยังช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมและการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่อีกด้วย
9.ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจสารโคลีนที่อยู่ในไข่เป็นสารอาหารสำคัญในการช่วยลดการอักเสบอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
“เดี๋ยวๆ หยุดก่อนพี่หมอ” เจ้าเก่งโพล่งขึ้น ขณะนั่งฟังพี่หมอบรรยายเพลินๆ “ลืมไป...พอดีผมต้มไข่ไว้ ป่านนี้น้ำแห้งหม้อแล้วมั๊ง...ขอตัวก่อนเดี๋ยวเสร็จแล้วจะกลับมาฟังต่อ”