ความฝันที่สาวก ลีดส์ ยูไนเต็ด เฝ้ารอมาแสนนาน มีวันเป็นจริงแล้วเมื่อยอดทีมแห่งแคว้นยอร์คเชียร์ กลับสู่สังเวียน พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายใต้การบัญชาทัพของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้จัดการทีมจากอาร์เจนติน่า ซึ่งไม่เพียงมีกลเม็ดเด็ดพรายเล่นงานคู่แข่งจนได้ขึ้นมาสูดอากาศบนลีกสูงสุด แต่ยังได้รับการยกย่องจากแฟนบอลว่าเป็นจอมติดดินที่พบปะเข้าถึงง่าย และไลฟ์สไตล์ที่ต่างจากเหล่ากุนซือบิ๊กเนมสิ้นเชิง
ว่ากันว่าการทำทีมฟุตบอล นอกจากผลงานในสนามอันแข็งแกร่งที่มัดใจแฟนบอลได้แล้ว ผู้จัดการทีมก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ทีมเป็นที่รู้จัก ยิ่งมีคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครก็จะยิ่งเป็นที่จดจำดังเช่น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้เป็นตำนาน หรือ โชเซ่ มูรินโญ่ เดอะ สเปเชียล วัน แห่ง ท็อตแนม ฮอ9สเปอร์ ที่มีสไตล์ทำทีมและฝีปากเหน็บแนมคู่แข่งจนเป็นเอกลักษณ์
มาร์เซโล่ บิเอลซ่า แห่ง ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็เป็นหนึ่งในนั้น ดูภายนอกเหมือนกุนซือที่มีสไตล์การแสดงออกที่โผงผาง ดุดัน และไม่ใช่ที่รักของทีมคู่แข่งเท่าไหร่เพราะเคยตุกติกส่งทีมงานไปสอดแนมดูการซ้อมของทีมอื่นในศึก เดอะ แชมเปียนชิป อังกฤษ ซีซันก่อนหน้า แม้จะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายในลีกอังกฤษ แต่ก็ถือว่าผิดในแง่ศีลธรรม ผู้คนพากันต่อว่าเพราะเป็นข่าวดังมาก แต่นั่นก็ทำให้ชื่อของ บิเอลซ่า โด่งดังเป็นที่รู้จักเข้าไปใหญ่
บิเอลซ่า มีฉายา “เอล โลโค” แปลเป็นไทยคือ “คนบ้า” ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่เขาเป็นเพราะตลอดการทำทีมฟุตบอลไม่ว่าระดับทีมชาติอาร์เจนติน่า, ชิลี หรือสโมสรกับ เอสปันญอล, แอธเลติก บิลเบา, โอลิมปิก มาร์กเซย จนถึง ลีดส์ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ทุ่มเทให้กับงานเต็มร้อย มีข้อมูลคู่แข่งอยู่ในหัวแบบเต็มความจุ ทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมคว้าชัยชนะ โดยเฉพาะ ลีดส์ ที่เขาพาทีมยกระดับขึ้นมาบินสูงในลีกรอง และกลับสู่ พรีเมียร์ ลีก กลายเป็นที่รักและศรัทธาของแฟนๆ
แม่ทัพลูกหนังวัย 65 ปี เข้ามาทำทีม ลีดส์ เมื่อปี 2018 หลังได้รับการติดต่อจาก อันเดรีย ราดริซซานี เจ้าของทีม แม้จะเป็นทีมที่อยู่ระดับลีกสองของประเทศ แต่ด้วยมนต์เสน่ห์และมีประวัติศาสตร์ในลีกฟุตบอลอังกฤษมายาวนาน แถมภารกิจก็แสนท้าทายนั่นคือพาทีมกลับไปลีกสูงสุดให้ได้ เหตุผลเท่านี้ก็ทำให้ บิเอลซ่า ตอบรับทำงานแบบไม่ยาก พร้อมเขียนสิ่งที่เขาต้องการส่งให้ ราดริซซานี นำไปพิจารณา
งานแรกที่ บิเอลซ่า ลงมือคือเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในสนามซ้อม เช่นเตียงนอนให้นักเตะเอาไว้พักผ่อน, มีโต๊ะสนุกเกอร์ กับเครื่องวีดีโอเกม เพลย์ สเตชั่น มาติดไว้ให้นักเตะใช้ผ่อนคลายหลังการซ้อมหรือหลังจบการแข่งขันอันตึงเครียด รวมถึงปรับปรุงสระว่ายน้ำ และมีเตาผิงติดตั้งไว้คลายหนาว ซึ่งทั้งหมดนั้น ราดริซซารี ก็จัดให้โดยไม่ต้องใช้เวลาพิจารณานาน
อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เจ้าของทีมชาวอิตาเลียนประหลาดใจ คือ เรื่องที่พัก บิเอลซ่า ปฏิเสธทำตัวเหมือน โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสที่ใช้โรงแรม 5 ดาวเป็นแหล่งพำนักพักพิง ราดริซซานี จัดหาโรงแรมระดับ 5 ดาวชื่อ รุดดิง พาร์ค โฮเทล ให้ บิเอลซ่า พักแรมระหว่างคุมถิ่น เอลแลนด์ โรด กระนั้นเจ้าตัวเลือกออกไปหาที่อยู่ใหม่ เป็นห้องเช่าเล็กๆ ขนาด 1 เตียง ที่มีค่าเช่าราคาถูก
ประโยชน์ของการนอนห้องเช่าซึ่งอยู่ใกล้สนามทีมตัวเองทำให้ บิเอลซ่า ที่รับค่าเหนื่อยปีละ 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 240 ล้านบาท) เดินไปทำงานได้สะดวก มีแฟนบอลพบเห็นเจ้าตัวสวมเสื้อฮูดเดินออกจากห้องพักไปทำงานทุกวัน ไป-กลับเที่ยวละ 45 นาที แม้กระทั่งช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรก็ไม่หวั่น เดินไปทำงานเหมือนเดิม เคยมีนักข่าวที่เห็นโดยบังเอิญอาสาขับรถไปส่งแต่นายใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ ปฏิเสธอย่างสุภาพ “ผมชอบเดินมากกว่าน่ะ”
หลายครั้งก่อนออกไปทำงาน บิเอลซ่า จะแวะไปดื่มกาแฟร้านประจำ นั่งวางแผนการซ้อมอยู่ในร้านเงียบๆ เป็นภาพที่ชาวเมืองลีดส์ เห็นจนคุ้นตาก่อนเดินไปที่ออฟฟิศของตัวเองที่ ธอร์ป อาร์ค ขณะที่หลังเลิกงานก็แวะซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อขนมปัง นม หรือของลดราคาใส่ถุงกลับบ้าน เหล่าพนักงานหรือแฟนบอลที่เห็นก็สามารถเดินเข้าไปขอถ่ายรูปได้ง่ายๆ ซึ่งเขาก็ตอบรับด้วยความเป็นมิตร
และสิ่งที่ทำให้สาวก “ยูงทอง” ประทับใจที่สุดคือความถ่อมตัวไม่โอ้อวด โดยก่อนหน้านี้สื่อจากเยอรมนีแสดงความชื่นชมที่ปั้น ลีดส์ ให้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งอีกครั้ง แต่บิเอลซ่า ตอบอย่างถ่อมตนว่ายังไม่ถึงขนาดนั้น “ผมคงบอกไม่ได้หรอกว่าผมประสบความสำเร็จในฐานะกุนซือ เพราะในทางตรงกันข้าม สิ่งที่คุณได้ยินคนส่วนใหญ่พูดถึงก็คือผมยังไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือเลย”
แม้เป็นเรื่องจริงที่ว่า บิเอลซ่า ไม่เคยทำทีมสโมสรคว้าแชมป์มาก่อน ความสำเร็จเดียวที่มีคือพา อาร์เจนตินา ซิวเหรียญทองฟุตบอลโอลิมปิก 2004 ที่กรีซ แต่ตัดภาพมาปัจจุบัน การพา ลีดส์ คว้าถ้วย เดอะ แชมเปียนชิป พร้อมตั๋วคืนสังเวียน พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ สำหรับแฟนบอล “เดอะ ไวท์” ผลงานเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ บิเอลซ่า กลายเป็นที่รักของพวกเขา พร้อมกับนับถอยหลังรอดูการออกอาละวาดของ ลีดส์ ในลีกสูงสุดรอบ 16 ปีแล้วว่าจะเด็ดดวงแค่ไหน