ดิ อันเดอร์เทเกอร์ สุดยอดนักมวยปล้ำระดับตำนานของสมาคม WWE ประกาศวางมือจากสังเวียนมวยปล้ำ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเป้าหมายหรือความสำเร็จใดๆให้ไขว่คว้าอีกต่อไปแล้ว
อันเดอร์เทเกอร์ หรือชือจริง มาร์ค คัลเวย์ พูดเรื่องนี้ผ่านสารคดีชีวิตของตัวเอง The Last Ride ตอนสุดท้ายที่ฉายผ่านช่อง WWE เน็ตเวิร์ค เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา
ตำนานมวยปล้ำวัย 55 ปี พูดถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า "ผมเชื่อว่าตอนนี้ได้อยู่ในที่ของตนเองแล้ว หลังจากจบแมตช์โบนยาร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งในการแข่งขัน"
"คุณอยู่ที่นั่น ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ แล้วขี่ออกไป ตอนนั้นผมถามตนเองว่ามีความสุขกับสิ่งที่ผ่านมาหรือเปล่า บอกเลยว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่ทรงพลังมาก และถ้าจะคิดถึงการจบอาชีพที่สมบูรณ์ที่สุด นั่นแหละเหมาะสมแล้ว"
"ถ้ามันเกิดเรื่องฉุกเฉิน คุณอาจจะทุบกระจกแล้วดึงตัว อิ อันเดอร์เทเกอร์ กลับมา ผมจะพิจารณาถึงเรื่องนี้ แต่ ณ ปัจจุบัน อาชีพของผมมันจบแล้ว ผมไม่มีความปรารถนาที่จะกลับมาขึ้นสังเวียนอีกต่อไป"
"ถึงเวลาแล้วที่คาวบอยคนนี้ต้องจากไป ไม่มีเป้าหมายสิ่งใดให้พิชิตอีกแล้ว มันคือเวลาที่เหมาะสม สารคดีนี้ช่วยให้ผมค้นพบสิ่งนั้นและเปิดตาให้ผมเห็นภาพใหญ่ โดยไม่ตัดสินตนเองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมคงมีอะไรที่ทำได้ดีกว่าเมื่ออยู่นอกสังเวียน และตอนนี้ผมก็อยู่ในสถานที่ๆผมยอมรับได้แล้ว"
สำหรับ ดิ อันเดอร์เทเกอร์ เริ่มต้นจากการเป็นนักมวยปล้ำหน้าใหม่ของ WCW เมื่อปี 1989 ก่อนย้ายมาอยู่ WWE ปี 1990 ในมาดสัปเหร่อนักมวยปล้ำขวัญใจแฟนๆ คว้าเข็มขัดแชมป์โลกและสร้างแมตช์ประทับใจผู้ชมทั่วโลกมาตลอด 30 ปี
ส่วนแมตช์สุดท้ายที่เจ้าตัวปล้ำคือการปะทะกับ เอเจ สไตล์ คู่แข่งรุ่นน้องในศึก เรสเซิลมาเนีย เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2020 แบบ โบนยาร์ด แมตช์ (ปล้ำในสุสาน) ก่อนจัดการฝัง เอเจ สไตล์ ในหลุมศพแล้วขี่มอเตอร์ไซค์จากไป