หนุ่มดอยเชื้อสายกะเหรี่ยงดีกรีแชมป์มวยไทยภาคเหนือ "นักฆ่าหน้าเปื้อนยิ้ม" พงษ์ศิริ มิตรสาธิต ผู้ผันตัวมาเป็นนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) แห่งสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในฐานะ "ครูมวยไทย" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ในช่วงที่ว่างจากการแข่งขัน
พงษ์ศิริ เริ่มงานนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจากการชักชวนของ “ครูปิง” ธนพงศ์ ขุนหารแก้ว ซึ่งเป็นครูมวยประจำค่าย The Fighter MuayThai ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ไม่ใกล้ไม่ไกลกับอำเภออมก๋อยบ้านเกิดของเขา แต่เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องพักยาวก่อนจะได้กลับมาสอนอีกครั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง
อาชีพครูมวยทำให้ พงษ์ศิริ มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน บวกกับค่าสอนพิเศษรายบุคคล และทิปรวมที่นำมาแบ่งกัน นอกจากนั้นการสอนมวยที่นี่ยังทำให้เขาได้ทบทวนวิชามวยของตัวเองควบคู่ไปอีกด้วย
ลูกศิษย์ที่มาเรียนมีความหลากหลายทั้งเพศและวัย ตั้งแต่เด็กน้อยอายุไม่ถึงสิบขวบ ยันคนสูงวัยอายุแตะหลักเจ็ดก็มี และมักจะเป็นครอบครัวชาวต่างชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในเรื่องของภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาพอจะมีประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการพูดคุยกับนักกีฬาและทีมงานต่างชาติในสังเวียนการแข่งขันมาบ้างแล้ว
สำหรับการสอนของ The Fighter MuayThai แบ่งเป็นช่วงเช้ากับช่วงเย็น ครั้งละ 2 ชั่วโมง แต่ละครั้งจะมีลูกศิษย์ราว 4-5 คน ไม่เกินจำนวนครูมวยประจำที่มีกันอยู่ 5 คน สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเพื่อจับคู่ได้พอดี โดยจะคำนึงถึงพื้นฐานของผู้เรียนและปรับการเรียนการสอนให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อผู้เรียนมากที่สุด