โรเจอร์ กูเดลล์ ประธานศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประกาศสนับสนุนทั้ง 32 แฟรนไชส์ ดึง โคลิน เคเปอร์นิก อดีตควอเตอร์แบ็ก ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ซึ่งตกงานเนื่องจากประท้วงเหยียดผิว
เคเปอร์นิก วัย 32 ปี ริเริ่มธรรมเนียมคุกเข่าเคารพเพลงชาติ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 เพื่อต่อต้านความอยุติธรรมด้านสีผิว และกลายเป็นฟรีเอเจนต์ ตั้งแต่ปี 2017 ก่อนเจรจายอมความกัน เดือนกุมภาพันธ์ 2019
ลีกคนชนคน ออกกฏห้ามผู้เล่นประท้วงด้วยวิธีดังกล่าว ทว่าปัจจุบันยอมรับผิดที่กระทำเช่นนั้น
กูเดลล์ ให้สัมภาษณ์ "อีเอสพีเอ็น (ESPN)" สำนักข่าวของ สหรัฐอเมริกา "หากเขาต้องการเล่นระดับ NFL ต่อ แน่นอนว่า มันจะต้องมีทีมๆ หนึ่งต้องตัดสินใจ ผมยินดีช่วยเหลือ และสนับสนุนทีมที่ทำเช่นนั้น"
"หากการทำงานของเขาไม่ได้อยู่บนสนาม แต่ยังคงทำหน้าที่ในขอบเขตของตัวเอง เราก็ยินดีต้อนรับเขานั่งโต๊ะเจรจา เพื่อช่วยเหลือและแนะนำเราแก้ไขปัญหาสังคม"
การประท้วงอย่างสันติของ เคเปอร์นิก ได้รับการสนับสนุน นับตั้งแต่การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีปราศจากอาวุธ วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะถูกตำรวจผิวขาวควบคุมตัว ที่เมืองมินเนียโปลิส
ซูเปอร์สตาร์ของลีกยุคปัจจุบันอย่าง แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก แคนซัส ซิตี ชีฟส์ และ โอเดลล์ เบ็คแฮม จูเนียร์ ปีกนอก คลีฟแลนด์ บราวน์ส เรียกร้อง NFL ประณามการเหยียดผิว และระบบซึ่งกดขี่คนผิวสี
ด้าน ดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ็กจอมเก๋า นิว ออร์ลีนส์ เซ็นต์ส โพสต์แถลงการณ์ขอโทษ หลังวิพากษ์วิจารณ์การคุกเข่าประท้วง เป็นการดูหมิ่นธงชาติสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ยังแสดงจุดยืนแข็งกร้าว และปฏิเสธติดตามกีฬาอาชีพทั้ง NFL และฟุตบอลของสหรัฐอเมริกา หากผู้เล่นไม่ยอมยืนเคารพเพลงชาติ
ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยเนวาดา เคยยื่นฟ้องร้องบรรดาเจ้าของทีม NFL โดยเชื่อว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดกันไม่ยอมจ้างตน เนื่องจากการคุกเข่าประท้วง ช่วงเดือนตุลาคม 2017