การย้ายทีมของฝาแฝด "ปาแปง-โชแปง" ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรีจากโปลิส เทโร เอฟซี สู่สโมสร การท่าเรือ เอฟซี สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลไทย เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งคู่ถือเป็นผู้เล่นแนวรับอนาคตไกล หลังโชว์ฟอร์มดีกับทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี จากศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุเดียวกัน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
โดย ธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมโปลิศ เทโร เอฟซี เปิดเผยสาเหตุที่ปล่อยทั้งคู่ออกสู่สโมสรคู่แข่งในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 ผ่านเพจ บี บางปะกง - Bebangpakong ว่า เกิดจากความจำเป็น เนื่องจากเจอวิกฤติโควิด-19
"เป็นความจำเป็นของสโมสรที่เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ทำให้บอลไทยลีก ฤดูกาลนี้ต้องกินเวลายาวนานเกินไป จากเดิมแค่ 10 เดือน ยืดไปเป็น 16 เดือน ทำให้ทุกอย่างในสโมสรเรามันผิดแผนไปหมด โดยเฉพาะเรื่องของสปอนเซอร์ที่เราทำสัญญากันแค่สิ้นสุดปีนี้ ไม่ได้เตรียมไว้เลยว่าเมื่อมีเหตุกาณ์ไม่ปกติ อย่างโควิดเกิดขึ้นแล้วจะทำอย่างไร? ดังนั้นการตัดสินใจขาย “โชแปง-ปาแปง” จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เงินก้อนหนึ่งมาบริหารทีมต่อ"
"ขณะที่ตัวเด็กเองก็มีอนาคตที่ดีกับทีมใหญ่รออยู่ ได้ค่าเหนื่อยสูงขึ้นกว่าเก่าเยอะ เรียกว่าตัวเลขของสัญญาใหม่ที่ทางเอเยนต์ของทั้งคู่เคยเสนอมาเราจ่ายไม่ไหวแน่ ดังนั้นการขายออกไปก่อนจะหมดสัญญาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย ดีลนี้จริงๆแล้วมีแค่ 2 ทีมเท่านั้นที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาคือ บีจี กับ ท่าเรือ แต่สุดท้ายจบที่ท่าเรือ เพราะเขายอมซื้อแพ็คคู่ เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 คนที่จะได้อยู่ทีมเดียวกันต่อไป เทโร จึงยอมปล่อยตัวให้"
"บอกตามตรงตนเสียดายคู่นี้มาก เพราะอนาคตวางแผนที่จะให้เขาไปเล่นที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่ทำไงได้ในเมื่อความจำเป็นมันบังคับ ก็ต้องปล่อยไปตามวิถีฟุตบอลอาชีพ อย่างไรก็ตามตนได้พูดคุยกับ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค แล้ว เขาเองก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ยอมรับได้กับนโยบายของผู้ใหญ่ที่ต้องเอาสโมสรให้รอดไว้ก่อน หลังจากนี้เราก็คงปั้นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ และพยายามสร้างผลงานของทีมให้เป็นไปตามเป้าหมายเดิมคือจบที่เลขตัวเดียว ยอมรับว่า 6 ทีมหัวตารางเราคงไปวัดกับเขาลำบาก แต่ที่เหลือเทโรสู้ได้หมด"
สำหรับศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020 หยุดแข่งขันตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยไทยลีก และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ประกาศว่าการแข่งขันรายนี้จะกลับมาเตะอีกครั้ง ในวันที่ 12 กันยายน 2563