แดเนียล แบร์เกอร์ นักกอล์ฟมือ 107 ของโลกชาวอเมริกัน กลายเป็นโปรคนแรกที่ได้แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ในยุค นิว นอร์มอล หลังเค้นฟอร์มเอาชนะคู่แข่งในช่วงเพลย์ออฟ แล้วคว้าโทรฟี ชาร์ลส ชวาร์บ แชลเลนจ์ วันสุดท้ายกลับบ้านไปในที่สุด
ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รีเทิร์นหลังเกิดไวรัสโควิด-19 ระบาด รายการ ชาร์ลส ชวาร์บ แชลเลนจ์ ชิงเงินรางวัลรวม 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 233 ล้านบาท) ณ สนาม โคโลเนล คันทรี คลับ ระยะ 7,209 หลา พาร์ 70 มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา วันที่ 14 มิถุนายน เป็นการดวลรอบสุดท้าย
ปรากฏว่าแชมป์ต้องตัดสินที่การเพลย์ออฟ เมื่อทั้ง แดเนียล แบร์เกอร์ กับ คอลลิน โมริคาวะ สองโปรชาวอเมริกัน เร่งทำสกอร์มาจบเท่ากันที่ 15 อันเดอร์พาร์ แต่การตัดสินแชมป์ก็จบแค่ครั้งเดียวในหลุม 17 พาร์ 4 เมื่อ แบร์เกอร์ เก็บพาร์ได้แต่ โมริคาวะ ตีออกโบกี
ผลที่ออกมาทำให้ แบร์เกอร์ ได้แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ กลับบ้านเป็นใบที่ 3 พร้อมเงินรางวัล 1.3 ล้านบาท (ประมาณ 41 ล้านบาท) พร้อมได้ชื่อว่าเป็นโปรคนแรกที่ได้แชมป์ในการแข่งขัน พีจีเอ ทัวร์ รูปแบบ นิว นอร์มอล ที่ไม่มีคนดูในสนามเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
"ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผมโดนกดทับอย่างหนักจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงการขึ้นมาครองตำแหน่งแชมป์ ดั้งนั้นคงต้องขอบคุณสำหรับการทำงานอันหนักหน่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการตอบแทนแล้ว" สวิงวัย 27 ปี กล่าว