UFC องค์การศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชั้นนำของโลก พร้อมด้วยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งอาบูดาบี (DCT Abu Dhabi) จับมือกันเพื่อนำศึกที่แฟนๆ รอคอย UFC FIGHT ISLAND มาจัดที่ Yas Island Abu Dhabi หนึ่งในจุดหมายปลายทางเพื่อการหย่อนใจ, ช็อปปิ้ง และศูนย์กลางความบันเทิงที่โด่งดังที่สุดแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
UFC จะจัดการแข่งขันที่ Yas Island 4 ศึก นำโดยศึกใหญ่ถ่ายทอดสดทางเปย์เปอร์วิว UFC 251 รวมถึงศึก Fight Night อีก 3 ศึก เริ่มต้นด้วยศึก UFC 251 วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม และศึก Fight Night วันพุธที่ 15 กรกฎาคม, วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม และวันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม รายละเอียดของแต่ละศึก รวมถึงโปรแกรมการแข่งขันจะมีการประกาศในอาทิตย์ถัดๆ ไป
และเพื่อให้สอดรับกับหลักเกณฑ์ทางสาธารณสุข DCT Abu Dhabi จะจัดโซนปลอดภัยในพื้นที่ 10 ตารางไมล์ (25 ตารางกิโลเมตร) ใน Yas Island ซึ่งมีสังเวียนแข่ง, โรงแรม, สถานที่ฝึกซ้อม และห้องอาหาร ซึ่งจะเปิดให้เฉพาะนักกีฬาของ UFC, ทีมโค้ช, สตาฟฟ์ของ UFC, ทีมงานอีเวนท์ ตลอดจนพนักงานของ Yas Island ที่เกี่ยวข้องเข้าได้เท่านั้น
โมฮาเหม็ด คาลิฟา อัล มูบารัก ประธาน DCT Abu Dhabi เผยว่า "เราได้เป็นพันธมิตรกับ UFC เป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งถือเป็นความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา และด้วยความมุ่งมั่น ความร่วมมือ เราจึงภูมิใจที่จะประกาศว่า กรุงอาบูดาบี จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน "Fight Island" ครั้งแรก เพื่อเป็นหมุดหมายในการกลับมาของ UFC บนเวทีระดับโลก
อัล มูบารัก เสริมด้วยว่า "เราได้ร่วมมือกับฝ่ายรัฐทุกภาคส่วนในอาบูดาบี เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดอีเวนท์ครั้งประวัติศาสตร์นี้จะเป็นไปด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเพื่อนักกีฬา, โค้ช และทุกคนใน UFC เช่นเดียวกับความปลอดภัยในชุมชนของเรา อาบูดาบีประสบความสำเร็จในการรับมือความท้าทาย และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวและผู้พักอาศัยในปีนี้ และวันนี้ เราจะแสดงในสิ่งที่ดีที่สุดที่เมืองหลวงแห่งนี้พร้อมนำเสนอ เพื่อเปิดประตูของเราสู่ชาวโลกอีกครั้ง"
ขณะที่ เดนา ไวท์ ประธาน UFC กล่าวว่า "เรามีไอเดียที่จะจัดศึกใน 'Fight Island' เนื่องจากเราต้องการมีที่หมายสักแห่งเพื่อจัดงานใหญ่ระดับนานาชาติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคครั้งใหญ่นี้ อาบูดาบีเป็นสถานที่สุดอัศจรรย์ในการจัดศึกต่างๆ ของเรามาเป็นเวลากว่า 10 ปี และเป็นสถานที่อันเหมาะสมที่สุดอีกด้วย สาธารณูปโภคที่เราสร้างขึ้น จะเป็นโอกาสระดับครั้งหนึ่งในชีวิตของเหล่านักสู้ที่จะได้ใช้แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทั้งสนามแข่งขัน, สถานที่ฝึกซ้อมแบบส่วนตัว รวมถึงเวที 8 เหลี่ยมบนเกาะ นี่จะเป็นประสบการณ์ที่เราทุกคนไม่อาจลืม ผมคอยไม่ไหวแล้วที่จะได้นำไฟต์สุดอัศจรรย์มาจัดที่ Yas Island"
ปี 2019 UFC และ DCT Abu Dhabi ได้จับมือเซ็นสัญญา 5 ปี เพื่อนำการแข่งขันของ UFC มาจัดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเดิมด้วยศึก UFC 242: KHABIB VS. POIRIER ซึ่งมีผู้ชมกว่า 14,000 คนมายัง Yas Island เมื่อเดือนกันยายน และความตกลงในการนำ UFC Fight Island มายังอาบูดาบี คือส่วนต่อขยายจากสัญญา 5 ปีระหว่างทั้ง 1 ฝ่าย
ศึกต่างๆ ของ UFC Fight Island จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก รวมถึงถ่ายทอดสดแบบเปย์เปอร์วิวในบางประเทศ โดยปัจจุบัน อีเวนท์ของ UFC ได้มีการถ่ายทอดสดไปยัง 172 ประเทศและดินแดน ผ่าน 40 ภาษา เข้าถึงผู้ชมมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก
สำหรับในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงส่วนที่เหลือของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ สามารถรับชมคอนเทนท์ของ UFC ได้ทาง UFC Arabia บริการสมาชิกของ UFC ในภาษาอาราบิก สามารถดาวน์โหลดแอป UFC Arabia ได้แล้ววันนี้ผ่าน Apple Store, Google Play รวมถึงรับชมได้ทางเว็บไซต์, สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และสมาร์ททีวี
ก่อนหน้านี้ UFC เคยจัดการแข่งขันในอาบูดาบีแล้ว 2 ครั้ง คือการจัดแข่งแบบเอาท์ดอร์เป็นครั้งแรกในศึก UFC 112: INVINCIBLE เมื่อเดือนเมษายน 2010 และศึก UFC FIGHT NIGHT: NOGUEIRA vs. NELSON เดือนเมษายน 2014