xs
xsm
sm
md
lg

ฝึกวิทยายุทธ์บนหลังควาย "ธิติสรรค์ ปั้นโหมด" กำปั้นความหวังโอลิมปิก (คลิป)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ว่าการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นจะถูกเลื่อนออกไปอีกหนึ่งปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่นักกีฬาทุกชาติยังคงฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อรอมหกรรมระดับโลกกลับมา ท่ามกลางกฏหมายห้ามทำกิจกรรมร่วมกันของรัฐบาล ทำให้นักกีฬาต้องฝึกซ้อมด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น

หนึ่งในกีฬาที่สร้างความสุขและเป็นความหวังเหรียญรางวัลของคนไทยมาหลายยุคหลายสมัยอย่างมวยสากลสมัครเล่น ปีนี้น่าจับตามองเพราะมีชื่อของ ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่เป็นม้ามืด เอาชนะ ชาห์โคบิดิน ซอยรอฟ จากอุซเบกิสถาน อดีตเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก2016 กับ แชมป์โลก 2019 ในรอบคัดเลือกโอลิมปิกผ่านเข้าสู่รอบชิงชะเลิศพร้อมคว้าตั๋วโตเกียวเกมส์ รุ่น 52 กก. มาครอง





พื้นเพของ "เจ้าเหลิม" ถือว่าน่าสนใจมาก โดยเกิดและโตอยู่ที่ จ.พิจิตร ทางบ้านทำฟาร์มควาย ทว่าเจ้าตัวกลับสนใจกีฬาหมัดมวย คุณพ่อสายันห์ ปั้นโหมด จึงฝึกมวยไทยให้ลูกชายตั้งแต่ 4 ขวบ ต่อยเล่นๆ อยู่ 3 ปี ก็เลิกชกไป จนกลับมาชกอีกทีตอนอายุ 12 เพราะถูกเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง และอยากเดินสายแข่งตามรอยรุ่นพี่ ศรีหมอก ส.สายัญ ทำให้ขึ้นชกสังเวียนต่างๆ หารายได้ช่วยที่บ้านดูแลควาย


จนได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนกีฬา อบจ. พิษณุโลก "โค้ชชาติ" อ.ผดุงชัย พันนุมา จับมาหัดมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 42 กก. ฝึกหนักไม่มีวันพักทั้งเช้า-เย็น เมื่อขึ้น ม.2 ฉายแววกวาดแชมป์นับไม่ถ้วน อาทิ แชมป์โรงเรียนกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2557, แชมป์ยุวชน-เยาวชน แห่งชาติ และปี 2558 คว้าเหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่ จ.จันทบุรี ทำให้พบกับ อ.เพิก พึ่งปัญญา หัวหน้าโค้ชเยาวชนทีมชาติไทย พามาลับหมัดในแคมป์ทีมชาติทันที



"ตอนที่ได้มาซ้อมกับทีมชาติ พ่อ-แม่ ภูมิใจในตัวผมมาก จึงตั้งเป้าหมายว่าอยากติดชุดใหญ่ให้ได้ แต่ในช่วงแรกก็มีปัญหาเรื่องการปรับตัว เพราะเราไม่รู้จักใคร ไม่กล้าคุยกับใคร พอได้ไปแข่งต่างประเทศครั้งแรกก็แพ้เลย"


ธิติสรรค์ ประเดิมต่อยรายการแรกในนามเยาวชนทีมชาติไทย รายการ ยุวชนชิงแชมป์โลก 2558 ที่ประเทศรัสเซีย เจ้าตัวพลาดท่าพ่ายตั้งแต่นัดแรก จากนั้นไปแข่งขันรายการเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน ผลงานก็ยังไม่ดี แต่เพราะมีเป้าหมายอย่างชัดเจน ทำให้เจ้าตัวฮึดสู้กลับมาคง้าแชมป์ยุวชนเยาวชนชิงชนะเลิศแห่ง ประเทศไทย ในปีเดียวกัน และเดินหน้าคว้าความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง



ปี 2560 ครองแชมป์อาเซียน, เหรียญทอง International Boxing Tournament Julius Torma Memorial ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก, ปี 2561 คว้าแชมป์โลก ที่ประเทศฮังการี, เหรียญทองมวยสากลอินเตอร์เนชั่นแนล รายการ “จีบี เทอร์นาส เฮลซิงกิ” ครั้งที่ 38 ที่ประเทศฟินแลนด์ และล่าสุด คว้าเหรียญเงิน คัดเลือกโอลิมปิก2020 “โซนเอเชีย-โอเชียเนีย” ทำให้คว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์มาครองได้สำเร็จ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


"ตอนได้โควต้าไปโอลิมปิก รู้สึกตื่นเต้นมาก ดีใจแบบบอกไม่ถูก เหมือนสิ่งที่เราตั้งใจมาตลอดมันสำเร็จ แต่ก็แอบเสียใจที่ไม่ค่อยมีใครรู้ เนื่องจากมีไวรัสโควิดพอดี ข่าวจึงค่อนข้างเงียบ แล้วก็ไม่มีโอกาสได้ฉลองกับที่บ้านด้วย ต่อจากนี้เราก็จะทำให้ดีที่สุดต่อไป ทำให้เต็มที่เหมือนที่ผ่านมา"



จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ "เจ้าเหลิม" ต้องกลับไปฝึกซ้อมที่บ้าน จ.พิจิตร มีโอกาสได้ใกล้ชิดบรรดาเพื่อนสี่ขาที่เลี้ยงไว้ จึงเกิดไอเดียฝึกซ้อมบนหลังควาย เพื่อฝึกการทรงตัว และสร้างสมาธิ เมื่อว่างจากการซ้อมมวย เจ้าตัวก็จะช่วยดูแลควายในฟาร์ม ต้องออกแรงจูงควาย ถือเป็นการออกแรงแขน ช่วยสร้างกล้ามเนื้อไปในตัวอีกด้วย


กำปั้นวัย 19 ปี เผยว่ามีไอดอลในดวงใจที่อยากเดินตามรอย คือ วาซิล โลมาเชนโก้ แชมป์โลกชาวยูเครน ที่มีสไตล์การชกหลากหลาย และ ฉัตรชัย บุตรดี รุ่นพี่ทีมชาติไทยที่คอยให้คำแนะนำเสมอมา



สำหรับเป้าหมายในการลุยโอลิมปิก 2020 ธิติสรรค์ กล่าวอย่างมั่นใจว่าจะต้องคว้าเหรียญทองกลับมาสถานเดียว เพื่อสร้างแรงจูงใจในการแข่งขันให้ตนเอง และจะพยายามแก้ไขจุดอ่อนของตนเองให้ดีที่สุด ฝึกหมัดให้หนัก เพื่อโค่นคู่แข่งทุกคนในรุ่น 52 กก.


"หลังวันที่ 31 พฤษภาคม ก็จะกลับไปฝึกซ้อมกับคนอื่นๆ ที่สมาคมฯ ซึ่งคิดว่ายังมีจุดอ่อนอยู่ที่พลังหมัด และอยากเพิ่มความหลากหลายในการชก แม้จะยังไม่ได้ศึกษาคู่ต่อสู้มากนัก แต่ช่วงเวลาที่เหลือก่อนการแข่งขันจะเริ่ม ตนเองจะทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าเหรียญทองมาฝากคนไทยให้ได้" เจ้าเหลิม กล่าวทิ้งท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น