ภายหลังจากที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกโตโยต้า ไทยลีก เปลี่ยนแปลงนโยบายบริหารสโมสร ด้วยการปล่อยนักเตะบิ๊กเนมออกจากทีมจำนวนมาก อาทิ
- ธีรศิลป์ แดงดา (ชิมิสุ เอสพัลส์)
- อ่อง ธู (ยาดานาบอน) หมดสัญญายืมตัว
- เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (การท่าเรือ เอฟซี) ยืมตัว
- โอ บัน ซอค (ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส)
- บรูโน่ กัลโล่
- ชาริล ชัปปุยส์ (การท่าเรือ เอฟซี)
- อดิศักดิ์ ไกรษร (การท่าเรือ เอฟซี) ยืมตัว
- เอร์เนสโต ภูมิภา (สมุทรปราการซิตี้)
- นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ (สุโขทัย เอฟซี)
- อดิศร พรหมรักษ์ (การท่าเรือ เอฟซี)
- สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยืนยันจากผู้บริหารทีม "กิเลนผยอง" ว่าจากนี้จะไม่ปล่อยนักเตะรายใดออกไป รวมทั้งยังจะเสริมทีมด้วยผู้เล่นระดับบิ๊กเนมเข้าสู่ทีมด้วยนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กำลังมองหาผู้เล่นมากประสบการณ์ที่จะมาประคองทีมที่มีนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดี เพื่อยกระดับสโมสร สำหรับไทยลีก ฤดูกาล 2020
ทั้งนี้ผู้เล่นที่ "กิเลนผยอง" ตกเป็นข่าวด้วยนอกจากแนวรุกโควต้าอาเซียนแล้ว ยังมี 2 นักเตะที่เคยค้าแข้งกับทีมอย่าง "AK9" อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าดีกรีทีมชาติไทย ที่ถูกปล่อยให้ การท่าเรือ เอฟซี ยืมไปใช้งานด้วยสัญญา 1 ปี กับ สุพรรณ ทองสงค์ ประการหลังดีกรีทีมชาติอีกราย ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับ สุพรรณบุรี เอฟซี
สำหรับในรายของ อดิศักดิ์ ไกรษร นั้นมีสัญญายืมตัว 1 ปี ก็จริง แต่เงื่อนไขครบสัญญาดังกล่าวเป็นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ซึ่งจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการหยุดการแข่งขันจนต้องเลื่อนโปรแกรมไปจบฤดูกาลเดือนพฤษภาคมปีหน้า มีความเป็นไปได้ว่ากองหน้าวัย 29 ปี อาจได้กลับสู่ต้นสังกัดที่แท้จริงในเลกที่ 2
ด้าน สุพรรณ ทองสงค์ กองหลังตัวกลางวัย 25 ปี เองแม้เป็นอดีตลูกหม้อของ "กิเลนผยอง" แต่ด้วยฟอร์มกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ดีวันดีคืน จนสามารถยึดตัวจริงและกลายเป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้ ถึงขนาดยกระดับไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่แล้วนั้น คาดว่าค่าตัวของดาวเตะรายนี้น่าจะสูงถึงระดับ 10 ล้านบาท หากว่าต้องการดึงตัวออกจากถิ่น "ช้างศึกยุทธหัตถี"
