มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ แอลเอ เลเกอร์ส เข้าร่วมการเคลื่อนไหวทาง โซเชียล มีเดีย “Blackout Tuesday” สนับสนุนกลุ่ม Black Lives Matter หลัง จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี เสียชีวิตด้วยการกระทำรุนแรงเกินเหตุของตำรวจ
แรชฟอร์ด และ เลอบรอน วัย 35 ปี เป็นส่วนหนึ่งของนักกีฬาอาชีพที่มีชื่อเสียง โพสต์ภาพสีดำสนิทบนเพจ “อินสตาแกรม” สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันอังคารที่ 3 มิถุนายน
ผลผลิตจากอะคาเดมี “ปิศาจแดง” เขียนแคปชันติดแฮชแท็ก “#blackouttuesday” ขณะที่ อดีตผู้เล่น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และ ไมอามี ฮีต บรรยาย “#blackouttuesday #BLM”
ฟลอยด์ ชายผิวสีปราศจากอาวุธ เสียชีวิตที่เมืองมินเนียโปลิส สัปดาห์ที่แล้ว (25 พ.ค.) หลังถูก จนท. เดเร็ก เชาวิน ใช้เข่ากดคอนานกว่า 8 นาที
เหตุการณ์ดังกล่าวจุดชนวนความวุ่นวาย ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และการประท้วงทั่วโลก เพื่อแสดงความเคียดแค้นด้านความรุนแรง, การเลือกปฏิบัติต่อคนผิวสี, การเหยียดผิว และเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง
ฟลอยด์ วัย 46 ปี นับเป็นเหยื่อรายที่ 3 ของปี 2020 ต่อจาก อาหมัด อาร์เบอรี และ บรีออนนา เทย์เลอร์ 2 พลเมืองอเมริกันผิวสี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต เดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม ตามลำดับ
ด้าน วิลฟรีด ซาฮา แนวรุก คริสตัล พาเลซ แชร์ภาพลักษณะเดียวกัน พร้อมบรรยาย “หลายสิ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เพราะการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ คือ ฟางเส้นสุดท้าย มันคือโอกาสครั้งเดียวเท่านั้น”
“ผมไม่ยินยอมให้เกิดความรุนแรง หรือปล้นสะดม แต่สิ่งนี้จะต้องไม่ใช่เพียงการโพสต์รูป และติดแฮชแท็กอีกต่อไป หากตอนนี้คุณคอมเมนต์ All Lives Matter (ฝ่ายตรงข้าม Black Lives Matter) แน่นอนว่าคุณก็คือส่วนหนึ่งของปัญหา การเลือกที่จะนิ่งเฉยของคุณ หรือผมควรจะบอกว่า หลีกเลี่ยงปัญหาเหยียดผิวที่เห็นได้ชัดเจน”
ส่วนซูเปอร์สตาร์วงการกีฬาคนอื่นๆ ที่ร่วมเคลื่อนไหว ได้แก่ สตีเฟน เคอร์รี การ์ดจ่าย โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส, แทมมี อบราฮัม ศูนย์หน้าดาวรุ่ง เชลซี, แฮร์รี เคน ดาวยิง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ ยูเซน โบลต์ อดีตลมกรดชาวจาเมกา ฯลฯ
