สถิติค่าตัวนักเตะแพงที่สุดในโลกของ เนย์มาร์ ดาวยิงบราซิเลี่ยนครั้งย้ายจาก บาร์เซโลน่า สู่อ้อมอก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยตัวเลข 198 ล้านปอนด์เมื่อปี 2017 เตรียมถูกทำลาย เมื่อมีข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังครุ่นคิดจ่ายให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 200 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษในช่วงซัมเมอร์นี้
แน่นอนว่า เคน วัย 26 ปีถึงเวลาต้องทบทวนอนาคตอีกครั้งว่าจะอยู่เป็นตำนาน สเปอร์ส แบบ "วัน แมน คลับ" โดยไร้เกียรติยศ เพราะทีมไร้วี่แววประสบความสำเร็จล่าสุดทำได้ดีที่สุดคือเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปีที่แล้ว หรือจะย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่อย่าง แมนฯยู เพื่อคว้าแชมป์เติมเต็มอาชีพนักฟุตบอลแขวนสตั๊ดไปจะได้ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
ดังนั้น "เดลี เมล" สื่อดังของอังกฤษ จึงทำการวิเคราะห์ 4 ปัจจัยของ เคน ที่คุ้มค่าเม็ดเงิน 200 ล้านปอนด์ที่ แมนฯยู ต้องจ่ายไปหรือไม่ จากนี้ก็ต้องมาวัดใจดูว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ "ผีแดง" จะเรียกร้องให้บอร์ดบริหารอนุมัติเงินก้อนโตนี้คว้ากองหน้าทีมชาติอังกฤษรายนี้หรือไม่
เครื่องจักรถล่มประตู - ฟุตบอลยุคนี้สมัยนี้กองหน้าตัวเป้าธรรมชาติที่ครบเครื่องถล่มประตูได้ทั้งเท้าซ้าย-ขวาและลูกกลางอากาศถือว่าหาได้ยากยิ่ง ซึ่ง เคน คือหนึ่งในนั้นที่กล่าวมาที่ได้พิสูจน์ตัวเองตลอดอาชีพค้าแข้งที่ย่างเข้าสู่วัย 27 ปีด้วยการยิงไปแล้ว 229 ประตูจาก 378 นัดรวมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ฤดูกาล 2014-15 นับเฉพาะใน พรีเมียร์ ลีก ก็ซัดประตูแตะ 2 หลักมาโดยตลอด พร้อมคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ 2 ปีติดคือ 2015-16 กับ 2016-17 แม้ว่าฤดูกาลนี้จะหายหน้าหายตาไปทั้งแต่ช่วงปีใหม่ เพราะบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย แต่ก็ซัดไปแล้ว 17 ประตูรวมทุกรายการนำดาวซัลโวของทีมในปีนี้่ ว่ากันว่าทีมที่จะลุ้นแชมป์ต้องมีนักเตะที่ยิงแตะหลัก 20 ประตูในแต่ละปี แน่นอนว่าอดีตแข้งเยาวชนของ อาร์เซนอล มีคุณสมบัตินี้อย่างไม่มีข้อกังขา
สอบผ่านระดับสูงสุด - หลังจากแจ้งเกิดเต็มตัวฤดูกาล 2014–15 ด้วยการซัด 31 ประตูรวมทุกรายการจากนั้นกราฟของ เคน ก็พุ่งขึ้นแบบเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ โดยบิ๊กเกมที่เจอกับคู่แข่งระดับหัวแถวของ พรีเมียร์ ลีก ด้วยกันก็ดาหน้ายิงมาแล้วทุกทีม ส่วนใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยิงทีมใหญ่ระดับยุโรปมาแล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะฤดูกาลที่แล้ว 2018-19 ที่พา สเปอร์ส เข้าสู่รอบชิงเส้นทางที่ผ่านมาก็ยิงทั้ง บาร์เซโลน่า และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เสียดายมาเจ็บก่อนนัดชิงที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ส่วนระดับทีมชาติอังกฤษที่โชว์ผลงานสุดไฉไลเข้าถึงรอบตัดเชือก เวิลด์ คัพ 2018 ที่รัสเซีย เจ้าตัวก็คว้าดาวซัลประจำทัวร์นาเมนต์กดไปทั้งสิ้น 6 ประตู รวมแล้วยิงให้ "สิงโตคำราม" 32 ประตูจาก 45 นัด อนาคตดาวยิงสูงสุดอยู่ไม่ไกล เพราะตามหลัง เวย์น รูนีย์ เพียงแค่ 21 ประตูเท่านั้นในตอนนี้
มืออาชีพและผู้นำตัวจริง - เคน ได้รับการยกย่องว่ามีความพยายามที่ไม่ลดละกว่าจะแจ้งเกิดจนทุกวันนี้ โดยย้อนไประดับเยาวชนเคยอยู่กับ อาร์เซนอล และ วัตฟอร์ด ก่อนจะเป็น สเปอร์ส ที่เห็นคุณค่า แต่ชีวิตไม่ได้โดยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะจากนั้นถูกปล่อยให้ยืมตัวถึง 4 ทีมกับ เลย์ตัน โอเรียนท์, มิลล์วอลล์, นอริช ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้ แน่นอนสิ่งนี้บ่งบอกถึงทัศนคติอันยอดเยี่ยม ปัจจุบันเจ้าตัวสวมปลอกแขนกัปตัน "ไก่เดือยทอง" ตั้งแต่ยุคคุมทัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน มาถึง โชเซ มูรินโญ่ และไม่เคยทำให้ใครผิดหวังแบบเพื่อนร่วมค่าย เดเล อัลลี ที่ออกมาเยาะเย้ยชาวจีนช่วงโควิด-19 ระบาดหนักจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปตามๆ กัน สิ่งนี้นี่เองทำให้เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจให้นำทัพ "สิงโตคำราม" ในศึก เวิลด์ คัพ 2018 อีกด้วย ซึ่งผลงานก็ยอดเยี่ยมอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว
จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของ แมนฯยู - โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ แมนฯยู กระเสือกกระสนในการหากองหน้าตัวเป้า โดยที่ผ่านมา โรเมลู ลูกากู ที่ยิง 16 ประตูนำทีมได้อันดับ 2 ฤดูกาล 2017-18 ก็ไม่ได้รับความไว้วางใจถูกขายต่อให้ อินเตอร์ มิลาน เรียบร้อยแล้วเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งก็มีคนมองว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด คือคนที่ใช่กระนั้นก็ตามเจ้าตัวเหมาะที่จะกระชากลากเลื้อยเดินเกมกราบซ้ายจะสร้างประโยชน์และปั่นป่วนคู่แข่งได้มากกว่าที่จะปักหลักเป็นตัวเป้า
แต่กับ เคน อาจจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ แมนฯยู ตามหาก็เป็นไปได้ ที่สำคัญเลยคือเล่นในทีมชาติอังกฤษด้วยกันกับ แรชฟอร์ด ดังนั้นอาจจะเข้าขามองตารู้ใจ นอกจากนี้ยังมี บรูโน แฟร์นองเดส เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติโปรตุเกสที่เพิ่งเข้ามาปั้นเกมให้ "ผีแดง" พร้อมจะจ่ายบอลงามๆ คอยสนับสนุนจากแถวสองอีกด้วย ไม่แค่นั้น อองโตนีย์ มาร์กซิอาล กับ ดาเนียล เจมส์ ที่มีความเร็วจัดจ้านก็พร้อมจะเดินเกมริมเส้นคอยป้อนบอลจากกราบให้กองหน้าตัวเป้าธรรมชาติจบสกอร์แบบครั้งอดีตที่มี รุด ฟาน นิสเตลรอย
จากการวิเคราะห์ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาแสดงให้เห็นว่า เคน คุ้มค่าคู่ควรอย่างแน่นอน แต่ระดับ 200 ล้านปอนด์ถือเป็นจำนวนมหาศาลที่ แมนฯยู กับ เอ็ด วูดวอร์ด ประธานบริหาร ต้องเสี่ยงและวัดดวงไม่น้อยในการจ่ายให้กับ สเปอร์ส ในช่วงที่หลายทีมเจอวิกฤตการเงินเล่นงานจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดเช่นนี้ แต่ถ้าทีมระดมเงินทุนจากการขายนักเตะคนอื่นๆ ที่มีรวม ปอล ป๊อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ติดโผโละทิ้งอยู่ด้วยก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย