ถอดสตั๊ดไปจับปืน!! “ซอน เฮือน มิน” ฝ่าหลักสูตรลูกผู้ชายฉบับย่อ “รมแก๊ส-ศึกษานิวเคลียร์”

ลีกฟุตบอลทั่วโลกกำลังหยุดชะงักเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมหาศาล บรรดานักฟุตบอลหลายชีวิตช่วงนี้ต่างแยกย้ายกลับไปกักกันตัวเองอยู่ที่บ้านกับครอบครัว หรือหากิจกรรมทำคลายเหงา ทว่า ที่ไม่เหมือนใครที่สุดต้องยกให้ ซอน เฮือน มิน ดาวเตะของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่บินกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำหน้าที่ของลูกผู้ชาย นั่นคือ เข้ารับการฝึกทหาร

ทีมยักษ์แห่งกรุงลอนดอน เพิ่งออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ซอน เฮือน มิน ตัวรุกชาวเกาหลีใต้ขวัญใจสาวก “คลับไก่” เดินทางกลับไปที่แดนกิมจิ เพื่อเข้ารับการฝึกทหารจำนวน 4 สัปดาห์ ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ และเมื่อเสร็จสิ้นในเดือนพฤษภาคม ก็จะบินกลับมารายงานตัวกับต้นสังกัดตามเดิม พร้อมกักกันตนเอง 14 วัน เนื่องจาก เกาหลีใต้ ก็มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากจีน เช่นเดียวกัน

มาถึงย่อหน้านี้ หลายท่านคงมีคำถามว่า ทำไม ซอน เฮือน มิน ยังต้องเข้ารับการฝึกทหารอีก ทั้งที่พาทีมชาติเกาหลีใต้ คว้าแชมป์ เอเชียน เกมส์ ปี 2018 จนได้รับสิทธิไม่ต้องเข้าร่วมกองกำลังของกองทัพอีกแล้ว กระนั้นมีการระบุว่า เจ้าตัวต้องเข้ารับการฝึกระยะสั้น 4 สัปดาห์ ที่เกาะเจจู เป็นการแลกเปลี่ยน การได้เหรียญทองครานั้น ก็คือ การได้สิทธิยกเว้นไม่ต้องเข้ากรมไปฝึกทหารจำนวน 21 เดือน เหมือนชายชาวเกาหลีใต้คนอื่นทั่วไป

กฎหมายที่เกาหลีใต้ระบุว่า ชายสัญชาติเกาหลีทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารก่อนอายุ 28 ปี โดยที่ผ่านมา ดารา นักแสดง นักร้อง ต่อให้มีชื่อเสียงโด่งดังเพียงใดก็ต้องถูกจับมาฝึกในเครื่องแบบทหารทั้งหมด ส่วนรายของ ซอน เฮือน มิน ถึงจะได้รับการยกเว้น โดยต้องเข้ามาฝึกทหาร 4 สัปดาห์ กระนั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนในสาธารณะว่า ไม่ยุติธรรมนักเมื่อเทียบกับชายชาวเกาหลีรายอื่นที่ไม่มีสิทธิพิเศษ

เหตุที่ประชาชนชาวเกาหลีใต้ที่ไม่พอใจเมื่อเหล่านักฟุตบอลทีมชาติได้รับการยกเว้น เพราะพวกเขาเชื่อว่า ซอน เฮือน มิน และเพื่อนๆ ไม่ได้ต้องการเตะฟุตบอลเพื่อประเทศชาติ แต่เพราะอยากได้สิทธิยกเว้นการเข้ากรมกอง 21 เดือนมากกว่า ขณะที่เหล่านักร้อง ศิลปินเกาหลี ที่มีชื่อเสียงและออกไปโด่งดังในเวทีระดับโลกหลายราย ยังต้องกลับมาสวมเครื่องแบบฝึกทหาร หน้าที่การงานต้องสะดุดในช่วงเวลาที่กำลังรุ่งโรจน์

สำหรับการฝึกทหารของเกาหลีใต้ มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ขั้นพื้นฐานอย่างออกกำลังกาย, เข้าเวรประจำการตำแหน่งต่างๆ ที่ได้รับผิดชอบ, พัฒนาทักษะการยิงปืนและใช้อาวุธ, ยุทธวิธีการจู่โจมทั้งภาคกลางวันและกลางคืน แต่หลักสูตรสำคัญที่ชายชาวเกาหลีใต้ต้องผ่านมันไปให้ได้นั่นคือ หลักสูตร Chemical, Biological, Radiological and Nuclear (CBRN) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับอาวุธประเภทสารเคมีอันตราย

สิ่งที่ ซอน เฮือน มิน และลูกผู้ชายเกาหลีใต้ทุกคนต้องเผชิญในหลักสูตรนี้ คือ การรับมือกับแก๊สน้ำตาประสิทธิภาพสูง เพื่อเรียนรู้การเอาตัวรอดหากถูกอีกฝ่ายยิงแก๊สน้ำตาใส่ ต่อด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับรังสี เคมีชีวภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่เอาไว้ใช้ในสนามรบ กระทั่งชิ้นส่วนต่างๆ ของหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยนาวิกโยธินของเกาหลีใต้ ยืนยันว่า นี่คือ หลักสูตรภาคบังคับสุดอันตรายที่ทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ หากหวังสำเร็จการฝึก

“การฝึกอบรบหลักสูตร CBRN คือ สิ่งที่ยากที่สุดของค่าย เมื่อคุณอยู่ในกองทัพแล้ว คุณควรเรียนรู้การยิงปืนไรเฟิล ฝึกหายใจหากโดนยิงแก๊สเข้าใส่ รวมถึงเข้าสู่สนามรบ ม้วน กลิ้ง คลาน ไปรอบๆพื้นที่สังหาร นอกจากนี้ ระหว่างออกเดินทัพระยะไกล 18 ไมล์ ก็ต้องแบกอุปกรณ์หนัก 40 กก. ติดตัวไปด้วย” หนึ่งในเจ้าหน้าที่นาวิกโยธิน ระบุ

อีกหนึ่งหลักสูตรที่เหล่าทหารหาญต้องเผชิญคือการฝึกทะลวงเข้าฐานของศัตรู ที่เรียกว่า live-fire drills โดยแผนคือให้ทหารบุกเข้าตะลุยแดนหน้า โดยมีรถยิงจรวดของจริงคอยซัปพอร์ตอยู่ข้างหลัง และเมื่อถึงเวลาเปิดฉากโจมตี เหล่าทหารก็ต้องเอาตัวรอดจากดงกระสุนของศัตรู พร้อมกับหลบระเบิด ฝ่ากองไฟเข้าไปจัดการศัตรูด้วยเช่นกัน นับเป็นการฝึกที่โหดแต่มีประโยชน์ยิ่งหากตกอยู่ในสถานการณ์จริงที่เต็มไปด้วยเสียงระเบิดและกลิ่นดินปืน

แม้การกลับเข้ามาประจำการทหารระยะสั้นของ ซอน เฮือน มิน และนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ จะยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นอยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่สุดแล้ว ดาวเตะ “ไก่เดือยทอง” รวมถึงผองเพื่อนก็ไม่ได้หนีทหาร เข้ารับรายงานตัวถูกต้องตามกฏหมายอย่างที่ควรเป็น ก็นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการแสดงความรับผิดชอบและเสียสละในฐานะลูกผู้ชายแห่งแดนกิมจิ