นายพิชัย ชุณหวชิร รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัด กิจกรรม “เดิน - วิ่ง 2020 โอลิมปิกเดย์” เป็นประธานในการแถลงข่าวกิจกรรม ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์
โดย กิจกรรมเดิน – วิ่ง 2020 โอลิมปิกเดย์ จะมีขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ระยะ คือระยะทาง 5 กม. (ไม่มีชิพจับเวลา) รับสมัครจำนวน 3,000 คน และระยะทาง 10 กม. (มีชิพจับเวลา) รับสมัคร 5,000 คน โดยไม่กำหนดรุ่นอายุ ซึ่งได้รับรองมาตรฐานการจัดการแข่งขันโดยสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ และสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย เริ่มปล่อยตัวระยะ 10 กม. เวลา 05.00 น. และปล่อยตัวระยะ 5 กม. เวลา 05.30 น.
เส้นทางจุดสตาร์ตจากสนามศุภชลาศัย ผ่านถ.บรรทัดทอง ถ.พระราม 4 ถนนวิทยุ ถ.พระราม 1 กลับเข้าสู่สนามศุภชลาศัย ผู้ที่เข้าเส้นชัยทำเวลาดีที่สุด 3 อันดับแรกชาย และ 3 อันดับแรกหญิง จะได้รับโล่รางวัล และ ผู้ที่เข้าเส้นชัย 100 อันดับแรกชาย และ 100 อันดับแรกหญิง จะได้รับเสื้อ FINISHER ส่วนผู้สมัครทุกคนจะได้รับเสื้อวิ่ง พร้อมเหรียญที่ระลึกโอลิมปิก, ประกาศนียบัตรจากไอโอซี พร้อมสิทธิในการลุ้นของรางวัลอีกมากมาย เช่น ยางรถยนต์บริดจสโตน ฯลฯ นอกจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ได้เตรียมซุ้มร้านอาหารทั้งคาวและหวานมากมายให้นักวิ่งได้รับประทานอย่างเต็มอิ่มหลังจบการแข่งขัน
โดย นายพิชัย กล่าวว่า “ขอขอบคุณทุกท่านที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรมกันเข้ามาอย่างล้นหลาม ทำให้การเปิดรับสมัครทั้ง 2 ระยะ เต็มอย่างรวดเร็ว ซึ่งปีนี้เปิดรับเพียง 8,000 คน เพื่อความคล่องตัวของเส้นทางการเดิน-วิ่ง ซึ่งหลายๆท่านประทับใจการจัดงานในปีที่ผ่านมา ด้วยการจัดงานที่มีมาตรฐาน สถานที่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย มีจุดจอดรถรับรองครบครัน ค่าสมัครไม่แพง เพียง 370 บาท
ส่วนการออกแบบดีไซน์เสื้อวิ่งและเหรียญรางวัล ได้รับคำชมเข้ามามากว่าสวยงาม ซึ่งปีนี้เราได้นำสัญลักษณ์แลนด์มาร์กของประเทศไทยและญี่ปุ่นมาสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดมหกรรมกีฬานานาชาติ โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว”
นอกจากนี้ นายพิชัย ยังเผยว่าได้มีมาตรการตรวจสอบเชื้อไวรัสโคโรน่า อย่างเน้มงวด แต่ก็มั่นใจว่าเชื้อยังไม่ระบาดหนักในประเทศไทย จึงมั่นใจว่าจะไม่มีเชื้อโรคมาติดนักวิ่ง
ผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมสามารถรับเสื้อและเบอร์วิ่งได้ในวันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่สเตเดียมวัน จุฬาลงกรณ์ ซ. 6 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. สามารถดูรายละเอียด และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/olympicdayth/
