xs
xsm
sm
md
lg

"ประทุม" ประกาศแขวนสตั๊ด ทิ้งข้อความปริศนาถึง "ความอัปรีย์" ในวงการฟุตบอล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประทุม ชูทอง อดีตปราการหลังทีมชาติไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ ในวัย 36 ปี พร้อมโปรยวลีทิ้งเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่เอาไว้ให้ติดตามถึงบางอย่างในวงการฟุตบอลไทย

กองหลังพันธุ์ดุสร้างชื่อกับการค้าแข้งให้กับ โอสถสภา เอ็ม-150 ในฤดูกาล 2008-2011 ก่อนถูกบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2012-2014 และย้ายมาร่วมทัพสุพรรณบุรี เอฟซี ในปี 2015-2016 โยกไปร่วมทัพสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในปี 2016-2018 ถูกปล่อยยืมตัวไปให้ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในปี 2018 และสโมสรสุดท้ายที่ค้าแข้ง คือ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ทีมในระดับเอ็ม-150 แชมเปียนชิพ หรือไทยลีก 2 ในปี 2019 ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดในที่สุด

โดย ประทุม ชูทอง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความว่า "ผมขออนุญาติยุติบทบาทการเป็นนักฟุตบอลบอลอาชีพตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอบคุณทุกๆสโมสรที่เคยให้โอกาสเด็กบ้านนอกคนนึงได้รับใช้ ขอบคุณทีมชาติไทยให้ที่ทำให้เด็กบ้านคนนึงได้มีโอกาสมีธงไตรรงค์ คาดหน้าอกซ้ายอย่างภาคภูมิใจ จริงๆแล้วผมคิดว่าผมยังเล่นและสามารถโลดเเล่นในสนามหญ้าได้อย่างสบาย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผมต้องเลิกเล่น ผมขอพูดในที่พื้นที่ตรงนี้ ด้วยชีวิตนักฟุตบอลอย่างผม ไม่ว่าจะสีเสื้ออะไร ทุกครั้งที่ผมได้รับโอกาสลงไปแสดงความสามรถ ผมเกิน100% เสมอ ผมไม่เคยห่วง เจ็บ หัก หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมในสนาม ผมกล้าพูดได้เลยว่าผมพร้อมจะบ้า แลก ทุกอย่างในสนาม แต่ทุกวันนี้ มันมีอะไรซ่อนอยู่ในฟุตบอลสมั้ยนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่สมควรที่จะมีในวงการฟุตบอลอาชีพ มันทำลายความเป็นมืออาชีพในตัวนักเตะ ความจริงก็คือความจริง แต่สิ่งที่ผมรับไม่ได้คือขี้กองใหญ่ที่โยนใส่ผม ผมกล้าพูดตรงนี้ว่าสุดท้ายแล้ว ความจริงในใจผมที่ผมทำอะไรไม่ได้ ความจริงผมพูดไม่ได้ สักวันความจริงมันจะปรากฎ ‘หมาล่าเนื้ออย่างผม ต่อให้ไม่มีกินยังไง ผมไม่เคยคิดที่จำทำเรื่องอัปปรี สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆคนที่ให้โอกาส และเห็นค่าในตัวผมจริงๆที่ได้ให้โอกาสรับใช้ทุกๆสโมสร และได้มีโอกาสรับใช้ ทีมชาติไทย (รถถังไทยแลนด์) 🙏🏻🇹🇭⚽️🇹🇭🙏🏻 ผมมีคลิปจบน่ะ"

หลังจากโพสต์เฟซบุ๊กแขวนสตั๊ด โลกโซเชียลต่างโฟกัสที่เครื่องหมายคำถามของประทุม ชูทอง ที่ใส่เอาไว้ในโพสต์ดังกล่าวด้วย "แต่ทุกวันนี้ มันมีอะไรซ่อนอยู่ในฟุตบอลสมั้ยนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่สมควรที่จะมีในวงการฟุตบอลอาชีพ มันทำลายความเป็นมืออาชีพในตัวนักเตะ ความจริงก็คือความจริง แต่สิ่งที่ผมรับไม่ได้คือขี้กองใหญ่ที่โยนใส่ผม ผมกล้าพูดตรงนี้ว่าสุดท้ายแล้ว ความจริงในใจผมที่ผมทำอะไรไม่ได้ ความจริงผมพูดไม่ได้ สักวันความจริงมันจะปรากฎ ‘หมาล่าเนื้ออย่างผม ต่อให้ไม่มีกินยังไง ผมไม่เคยคิดที่จำทำเรื่องอัปปรี"

ซึ่งข้อความดังกล่าวหลายคนตีความว่าอาจเกี่ยวข้องกับการจ้างวานให้ล้มบอล หรือล็อคผลการแข่งขัน ในเกมที่เจ้าตัวลงเล่น ก็เป็นได้




กำลังโหลดความคิดเห็น