คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2563 หลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศ วอลเลย์บอลหญิง โอลิมปิก 2020 รอบคัดเลือก ที่สนามชาติชายฮอลล์ จังหวัดนครราชสีมา เต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำตาและความเศร้าของนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย และทีมงานผู้ฝึกสอน รวมถึงกองเชียร์ ที่ต้องเสียน้ำตาจากความผิดหวังครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วหละครับ
ซึ่งคนเป็นหัวเรือใหญ่อย่าง "โค้ชด่วน" ดนัย ประกาศอำลาตำแหน่งหลังจบการแข่งขัน เป็นการรับผิดชอบผลงาน และหลังจากนั้นก็มีข่าวลือว่านักกีฬาจอมเก๋าของทีมอย่างน้อยๆ 5 คน ขอยุติบทบาทตัวเองในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย
ทว่าคำประกาศอำลาของ "โค้ชด่วน" นั้นถูกระงับจาก นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย สมพร ใช้บางยาง ที่มองว่าเรื่องนี้ต้องหารือกันเป็นการภายในสมาคมเสียก่อน และมองว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงสปิริต ซึ่งก็ถูกแล้ว แต่ทุกอย่างต้องมีกระบวนการพิจารณาอย่างเหมาะสม
ทีนี้พอทีมลูกยางสาวขวัญใจแฟนกีฬา พลาดตั๋วโอลิมปิกอีกสมัย มันก็มีกระแสเรียกร้องว่าอยากได้โค้ชต่างชาติเหมือนทีมอื่นๆ เขาบ้างหละ รวมถึงอยากเห็นนักกีฬาดาวรุ่งมาทดแทนรุ่นพี่ที่ถูกมองว่าโรยราบ้างหละ จุดนี้ "นายกสมพร" เองก็ให้คำตอบไว้น่าสนใจครับ ว่าเรื่องโค้ชชาวต่างชาติต้องมองเรื่องความเหมาะสม เพราะเรามีวัฒนธรรมองค์กรมายาวนาน
อันนี้ผมเห็นด้วยว่าจริงครับ เพราะโค้ชที่เข้าใจนักกีฬา และเหมาะสมกับสมาคมกีฬาไทยนั้นไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่าจะนำทีมประสบความสำเร็จ การเปลี่ยนแปลงบางครั้งก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป ไม่ต้องอื่นไกลหรอกครับ สมาคมฟุตบอลฯ ทำให้เห็นมาแล้ว ตอนแพ้ทีมระดับหัวแถวของทวีปแล้วทำเป็นมาบอกว่าอาย จะอยู่กันแบบนี้จริงๆ เหรอ ปรากฎว่าโค้ชไทยน้อยใจลาออก แล้วตอนนี้เปลี่ยโค้ชไปแล้วกี่คน ทั้งโค้ชไทย โค้ชนอก จนป่านนี้ก็ไม่แน่ว่าเจอทางไปสวรรค์กันหรือยัง?
ส่วนเรื่องว่านักกีฬารุ่นพี่ รุ่นเก๋าจะอำลาทีม ถึงขนาดมีสื่อดังเที่ยวอ้างแหล่งข่าว "วงใน" (ที่แรกก็งงนึกว่ารีวิวร้านอร่อย..ฮา) เอาไปพาดหัวว่า ไปแน่ 5 เซียน นั้น กลายเป็นว่างานนี้โดนนักกีฬาด่าเสียสุนัขกันไป ว่าจะทำข่าวฉันเลิกเล่น ทำไมไม่มาถามฉันกันสักคำ ใบ้รับประทานกันสิครับ (ฮา)
จริงๆ คนที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงไม่ผิดหรอกครับ ใครก็อยากให้อะไรมันดีขึ้นกันทั้งนั้น เพียงแต่เราต้องยอมรับว่า เปลี่ยนแล้วไม่ใช่ว่ามันจะดีขึ้นเลย ไปเอากระแส เอามันตามโลกโซเชียลมันเละมาให้เห็นก็เยอะแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้เราคงต้องมองถึงอนาคตด้วยการปรับทีมกันใหม่ แต่มันยังมีรายการที่เราต้องลงสนามเจอกับทีมระดับโลกในปี 2020 นี้อีกหลายรายการ ยกตัวอย่างรายการ เนชั่นส์ ลีก โดยสนามที่เราเป็นเจ้าภาพ จัดกันระหว่างวันที่ 16-18 มิถุนายนนี้ เจอกับทีมอย่าง อิตาลี, เบลเยียม และ แคนาดา แว่วว่าปีนี้จัดกันที่ภูเก็ต
เนื่องจากการจะได้ไปคัดโอลิมปิก 2024 นั้นเขาก็คิดคำนวนคะแนนจากอันดับโลก ซึ่งสำคัญตรงที่ว่า เราต้องผลักดันนักกีฬารุ่นใหม่มากขึ้น แต่การจะทิ้งตัวหลักไปเลยรับรองได้ว่าเสียศูนย์แน่นอน ดังนั้นรุ่นพี่ก็ยังต้องอยู่ และรุ่นน้องก็ต้องมา จึงเป็นโจทย์สำคัญของสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ว่าจะหาคำตอบที่ใช่ที่สุดอย่างไรดี