xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนรอย “ซูเปอร์โบว์ล” กลางไฟสงคราม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

ผ่านพ้นช่วงปีใหม่ 1 สัปดาห์ อุตส่าห์เตรียมจัดเต็มเรื่อง เดวิด เจ. สเติร์น อดีตประธาน เอ็นบีเอ (NBA) ระดับตำนาน ปลุกปั้นลีกบาสเก็ตบอลอาชีพจนประสบความสำเร็จ ตลอดการทำหน้าที่ 30 ปี แต่กลิ่นไอของบรรยากาศสงคราม ระหว่าง สหรัฐอเมริกา กับ อิหร่าน ช่างรุนแรงเกินกว่าจะห้ามใจ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำมาหากินบนสายการเมืองต่างประเทศ

อันที่จริงก็ไม่ค่อยชอบประเด็นเครียดๆ สักเท่าไร พอเห็นข่าวลือที่กองเชียร์ ลิเวอร์พูล ขวัญผวา เนื่องจาก พรีเมียร์ ลีก อาจถูกล้มเลิก เพราะเกรงจะเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 อดแห่แชมป์ลีกสูงสุดสมัยแรกรอบ 30 ปี แต่พอตั้งสติก่อนเสพข่าวสักนิด ลีกหลักๆ ของ สหรัฐฯ อย่าง เอ็นเอฟแอล (NFL) และ NBA ก็ยังแข่งกันตามปกติ ทั้งๆ ที่น่าจะถูกผลกระทบโดยตรง แล้ว ฟุตบอลอังกฤษ จะมายุติลงดื้อๆ ได้อย่างไร

สถานการณ์ล่าสุด อิหร่าน เริ่มปฏิบัติการ Strike back เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามขอบเขตยังอยู่แค่ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ยังไม่รุนแรงถึงขั้นมหาอำนาจเลือกข้างอย่างจริงจัง จึงไม่มีเหตุต้องกังวลว่า จะยกระดับถึงขั้นสงครามโลก ส่วนประชากรโลกทั่วไป ต้องเตรียมรับมือผลกระทบ อาทิ น้ำมันกับทองคำราคาแพง และ ราคาหุ้นตก ไว้ล่วงหน้า

ท่ามกลางทั้ง 2 ฝ่ายกำลังจดๆ จ้องๆ ตอบโต้ใส่กัน ก็อดคิดไม่ได้เลยว่า “ซูเปอร์โบว์ล 54” ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่รัฐฟลอริดา จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรหรือเปล่า เพราะอีเวนท์ใหญ่ๆ สร้างรายได้มหาศาล ทั้งค่าโฆษณา และลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแก่ สหรัฐอเมริกา อาจตกเป็นเป้าโจมตีได้เช่นกัน และต้องนั่งภาวนาว่า เวลานั่งดูอยู่หน้าจอ สัญญาณภาพจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่เริ่มร้องเพลงชาติจนถึงฉลองแชมป์

ดังเช่น 29 ปีที่แล้วหวนรำลึกถึง “ซูเปอร์โบว์ล XXV (25)” ระหว่าง บัฟฟาโล บิลล์ส กับ นิว ยอร์ก ไจแอนท์ส เมื่อปี 1991 (ฤดูกาล 1990) เป็นเกมที่จัดขึ้นยุคสงครามอ่าวเปอร์เซีย ไม่ทราบด้วยเหตุบังเอิญใด สียูนิฟอร์มทั้ง 2 ทีมเกิดตรงกับ สีธงชาติสหรัฐอเมริกา คือ แดง , ขาว และน้ำเงิน สอดคล้องกับบรรยากาศปลุกความรักชาติ ศิลปินที่ถูกคัดเลือกให้ร้องเพลง “The Star-Spangled Banner” คือ วิทนีย์ ฮูสตัน นักร้องเสียงทรงพลัง ร่วมกับวง เดอะ ฟลอริดา ออร์เคสตรา และช่วง ฮาล์ฟ ไทม์ โชว์ ของ “New Kids on the Block บอย แบนด์ สาวกรี๊ด ถูกสถานีโทรทัศน์บันทึกเทปออกอากาศย้อนหลัง เพื่อรายงานความคืบหน้าของสงคราม

ทั้ง 2 ทีม สู้กันอย่างสุภาพบุรุษ ไม่มีการเล่นตุกติกนอกเกม , ยั่วยุฝ่ายตรงข้าม หรือก่อเรื่องทะเลาะวิวาท จบลงด้วยชัยชนะของ ไจแอนท์ส ที่เน้นการครองบอล และเกมรับเหนียวแน่น ภายใต้การดูแลของ บิลล์ เบลิชิก เหนือ บิลล์ส ที่เล่นเกมรุกแบบ “No Huddle (ประชุมแผนบนสนาม)” แบบหวุดหวิด 20-19 จาก ฟิลด์โกลของ แม็ตต์ บาเฮอร์ ก่อนจบเกม 7 นาทีกว่าๆ

วกกลับมาที่เรื่องการเมือง ตามประสาเด็กอมมือ ความขัดแย้งก่อนถึง “ซูเปอร์โบว์ล 54” อาจยังไม่ลุกลามถึงขั้นสงคราม แต่บรรดาอเมริกันชนก็คงมิอาจมั่นใจด้านความปลอดภัย หากมีผู้นำชอบชักศึกเข้าบ้าน , พอสติแตกก็พ่นวาจาผรุสวาท และนั่งอวดแสนยานุภาพการทหารอยู่เรื่อยๆ อาจต้องมานั่งกังวลว่า จะมีมิสไซล์จากย่านตะวันออกกลาง ตกที่บ้านหรือละแวกใกล้เคียงหรือไม่

บางกระแสก็ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ หวังผลเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ปี 2020 สร้างศัตรูร่วมของคนในชาตินอกเหนือจากตัวเอง หรือ จุดชนวนสงคราม ด้วยการปลิดชีพนายพลคนหนึ่ง นำไปสู่วิกฤติด้านความมั่นคง ทำให้ประชาชนตกอยู่ในความหวาดกลัว ไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพื่อรับมือสถานการณ์เฉพาะหน้า กรณีเป็นความจริง ก็คงจะมีแต่นักการเมืองถ่อยๆ เท่านั้นที่กล้าทำขนาดนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น