"บิ๊กโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยความเคลื่อนไหวของทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีคิวลงเล่นศึกชิงแชมป์เอเชีย ช่วงเดือนมกราคม 2020 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
โดย "บิ๊กโจ" ออกมาเผยว่า เวลานี้อากิระ นิชิโนะ เดินทางจากญี่ปุ่น กลับมายังประเทศไทยเพื่อทำงานอย่างเต็มรูปแบบได้หลายวันแล้ว และวางแผนมีเกมอุ่นแข้ง 2 นัดแบบปิด กับ 1 สโมสรในไทย และ 1 ทีมชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศไทย
"อากิระ นิชิโนะ เดินทางกลับมาไทยแล้ว รวมถึงทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชทุกคนก็มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ โดยในวันที่ 26 ธันวาคมนี้จะเป็นการเรียกเก็บตัวนักฟุตบอลเป็นครั้งแรก"
"26 ธ.ค.เราเริ่มเก็บตัว และจะมีคิวลงอุ่นเครื่องก่อน 1 นัดกับสโมสรในไทย และจะปล่อยให้นักเตะได้พักผ่อนในช่วงปีใหม่เล็กน้อย ก่อนจะกลับมาอุ่นเครื่องกับทีมชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียในครั้งนี้ด้วยอีก 1 นัด ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์"
"แต่การอุ่นเครื่องดังกล่าวทั้ง 2 นัด ตัวกุนซือใหญ่เองขอว่าให้เป็นการอุ่นแบบปิด ไม่มีการเผยแพร่หรือถ่ายทอดสดแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากอุ่นเครื่องเสร็จสิ้นเราก็จะทำการตัดตัวให้เหลือ 23 คน ก่อนลุยชิงแชมป์เอเชีย ตอนนี้คู่แข่งที่จะอุ่นเครื่องด้วยได้ตอบรับเบื้องต้นแล้ว รอเพียงการยืนยันอีกครั้งเท่านั้น"
ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ ออสเตรเลีย, อิรัก และบาห์เรน โดยนัดแรกจะเปิดสนามพบ บาห์เรน วันที่ 8 มกราคม ต่อด้วยการพบ ออสเตรเลีย 11 มกราคม และปิดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม พบ อิรัก วันที่ 14 มกราคม 2020 แข่งขันที่ราชมังคลากีฬาสถานทุกนัด ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD ทุกเกมที่ไทยลงทำการแข่งขัน
แฟนบอลสามารถหาซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันผ่านทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือผ่านทางเว็บไซต์ของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ที่ bit.ly/AFCU23 บัตรราคา 400, 300, 200 และ 100 บาท ซึ่ง และบัตร 1 ใบ สามารถรับชมการแข่งขันได้ตลอดทั้งวัน ในสนามที่แฟนบอลซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน