ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยเตรียมส่งมอบ 4 สนามใช้จัดการแข่งขัน U23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ให้ เอเอฟซี ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้
ความเคลื่อนไหวของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม ปีหน้า
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ออกมายืนยันว่า การปรับปรุงสนามแข่งขันทั้ง 4 สนาม คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, ธรรมศาสตร์ รังสิต, ติณสูลานนท์ และ บุรีรัมย์ สเตเดี้ยม ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว และเตรียมจะส่งมอบทั้ง 4 สนามให้กับ เอเอฟซี ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้
ผู้ว่ากกท. เผยว่า ตอนนี้ทุกสนาม ใกล้ที่จะปรับปรุงแล้วเสร็จหมดแล้ว ซึ่งหลังจากที่ส่งมอบสนามให้ เอเอฟซี แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของ เอเอฟซี ที่จะเข้ามาบริหารจัดการและดูแลเรื่องการจัดการแข่งขันต่อไป
สำหรับทั้ง 4 สนาม จะใช้จัดการแข่งขันดังนี้
กลุ่ม เอ จะแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ประกอบด้วย ไทย / อิรัก / ออสเตรเลีย / บาห์เรน
กลุ่ม บี แข่งขันที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต ประกอบด้วย การ์ตา / ญี่ปุ่น / ซาอุดิอาระเบีย / ซีเรีย
กลุ่ม ซี แข่งขันที่สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา ประกอบด้วย อุสเบกิสถาน / เกาหลีใต้ / จีน / อิหร่าน
กลุ่ม ดี แข่งขันที่สนามบุรีรัมย์ สเตเดียม ประกอบด้วย เวียดนาม / เกาหลีเหนือ / จอร์แดน / ยูเออี
โดย ทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม A ร่วมกับ อิรัก, ออสเตรเลีย และ บาห์เรน โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย มีดังนี้
ไทย พบ บาห์เรน ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 8 มกราคม 2563 เวลา 20.15 น.
ออสเตรเลีย พบ ไทย ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 20.15 น.
ไทย พบ อิรัก ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 14 มกราคม 2563 เวลา 20.15 น.