xs
xsm
sm
md
lg

“จาย” รั้งอันดับ 6 โลก หวังทำแต้มเพิ่มเพื่อโควต้าโอลิมปิก 2020

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จาย อังสุทธิสาวิทย์” คะแนนสะสมโลกกระโดดจากอันดับที่ 10 ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 6 พร้อมเตรียมลงชิงชัยในศึกจักรยานประเภทลู่รายการ “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” สนามที่ 5 ที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเอง หวังผลงานให้ดีที่สุด เพื่อเป้าหมายได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ด้าน “พลเอกเดชา” เผยเจ้าตัวมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ จึงฝากให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจไปเชียร์ “จาย” กันมาก ๆ

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานประเภทลู่รายการ “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” ทั้ง 6 สนาม ซึ่งผ่านมาแล้ว 4 สนาม โดยสนามที่ 5 จะชิงชัยกันที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค. ในสนามนี้นักกีฬาไทยจะลงแข่งในประเภททีมสปริ้นต์ ประชาชนชาย นำโดย “ทีเจ” จาย อังค์สุทธาสาวิทย์ พร้อมด้วย จ.ท.วรยุทธ คะปัญญา และ ส.อ.จตุรงค์ นิวันติ ในวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. กับประเภทคีริน ประชาชนชาย ที่มี จาย ลงแข่งขันเพียงคนเดียว ในวันที่ 14 ธ.ค.

พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในสนามที่ 4 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา จาย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในประเภทคีริน ปนระชาชนชาย โดยสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ และคว้าอันดับ 4 มาครอง ได้รับคะแนนสะสมอันดับโลกเพิ่มอีก 375 คะแนน ล่าสุด สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้ประกาศอันดับโลกประจำสัปดาห์ ผลปรากฏว่า จาย มีคะแนนสะสมเพิ่มเป็น 2,225 คะแนน จากเดิม จาย มีคะแนนสะสม 2,000 คะแนน อยู่อันดับที่ 10 ของโลก เมื่อรวมกับสนามล่าสุด 375 คะแนน รวมเป็น 2,375 แต่การคิดคะแนนของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ จะคัดเอาคะแนนที่ดีที่สุด 3 สนามจากทั้งหมด 6 สนาม ณ เวลานี้ จาย แข่งไปแล้ว 4 สนาม ก็ต้องหักสนามที่ได้คะแนนน้อยที่สุดออก นั่นก็คือสนามแรก ที่ประเทศเบลารุส ซึ่ง จาย ได้อันดับที่ 17 ร่วม ได้มา 120 คะแนน เมื่อหักออกจาก 2,375 คะแนน ก็จะเหลือ 2,225 คะแนน อย่างไรก็ตาม อันดับโลกของ จาย ยังขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 6 ของโลก กระโดดไปถึง 4 อันดับ

นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนคะแนนสะสม “โอลิมปิกแรงกิ้ง” ของประเทศไทย จากเดิมอยู่อันดับที่ 17 มี 2,005 คะแนน บวกกับคะแนนที่ จาย ทำได้ 375 คะแนน เป็น 2,380 คะแนน และหักคะแนนสนามแรกออกไปเช่นเดียวกัน จึงเหลือ 2,260 คะแนน ยังรั้งอันดับที่ 17 ตามเดิม ซึ่งโอกาสที่ จาย จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คะแนนสะสม “โอลิมปิกแรงกิ้ง” ของประเทศไทย ต้องขึ้นไปอยู่อันดับที่ 15 เป็นอย่างน้อย ดังนั้น ในการแข่งขัน “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” อีก 2 สนามที่เหลือ คือที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค. และ สนามที่ 6 ที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค. 63 นั้น จาย จะต้องทำผลงานให้ดีที่สุด โดยต้องตั้งเป้าว่าได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ หรือ รอบ 6 คนสุดท้ายให้ได้

นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า สหพันธ์จักรยานนานาชาติ จะคัดเอานักกีฬาที่ทำผลงานดีในการแข่งขัน “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” ไปแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก หรือ “ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 26 ก.พ.-1 มี.ค. 63 ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายก่อนจะประกาศรายชื่อชาติที่ได้โควาต้าผู้ที่ได้ไปโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” ในวันที่ 2 มี.ค.63 ตอนนี้คะแนนสะสมของ จาย มีมากพอที่จะได้ไปแข่งขันค่อนข้างแน่นอนแล้ว ขอเพียงแค่ จาย ทำผลงานในอีก 2 สนามให้ดี และลุ้นว่าในศึกชิงแชมป์โลกสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้อีก เพื่อที่จะทำคะแนนแซงคู่แข่งอีก 2 ชาติ คือ อันดับ 15 คาซัคสถาน ที่มี 2,537 คะแนน กับอันดับ 16 เวเนซูเอลา ซึ่งมี 2,430 คะแนน โดยเราต้องทำคะแนนทิ้งห่าง 2 ชาติดังกล่าวประมาณ 500-600 คะแนน หากเป็นไปตามเป้าโอกาสที่จะได้โควต้าโอลิมปิกเกมส์ อีก 1 ที่นั่ง ก็จะเปิดกว้างทันที

“สำหรับการแข่งขัน ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ สนามที่ 5 ที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย นั้น เป็นบ้านเกิดของ จาย ด้วย เพราะแม่ของเขาเป็นชาวออสเตเรเลีย ทำให้ จาย มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะทำผลงานในบ้านเกิดของตัวเองให้ดีที่สุด และทำคะแนนสะสมให้ได้มาก ๆ เพื่อโอกาสได้สิทธิไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทย ช่วยส่งกำลังใจไปให้จายกันมาก ๆ โดยสามารถส่งข้อความไปได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัวของ จาย ที่ชื่อว่า Jai - จาย อังค์สุธาสาวิทย์ – Angsuthasawit หรือ อินสตาแกรม (IG) tjjai ทุกข้อความ ทุกกำลังใจที่แฟน ๆ จักรยานส่งไป จาย ได้อ่านทั้งหมด ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ จาย ฮึดสู้เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยต่อไปอย่างไม่หยุดนั้ง” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.


กำลังโหลดความคิดเห็น