แดเนียล เลวี ประธาน ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สั่งปลด เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ แล้วเลือก โชเซ มูรินโญ ทำหน้าที่แทน ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ ตามล่าแชมป์แรกของสโมสร นับตั้งแต่ฤดูกาล 2007-08
โปเชตติโน วัย 47 ปี ปลุกปั้น "ไก่เดือยทอง" จากทีมกลางตาราง ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ด้วยเวลาเพียง 5 ปี (2014-2019) ภายใต้งบประมาณจำกัด ก่อนถูกขับพ้นตำแหน่งเพียง 5 เดือน หลังปราชัยแก่ ลิเวอร์พูล 0-2 ที่กรุงมาดริด
เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีส ถูกดึงตัวสู่ถิ่น ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียม ด้วยสัญญา 3 ปีครึ่ง เมื่อวันพุธที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลัง เลวี หมดความอดทนกับการรอคอยความสำเร็จมายาวนาน
ท็อตแนมฯ ฉลองแชมป์ครั้งสุดท้าย รายการ ลีก คัพ เมื่อปี 2008 ทว่า มูรินโญ วัย 56 ปี กวาดถ้วยรางวัล 13 ใบ นับจากวันนั้น
ตามสถิติ เจ้าของสมญา "เดอะ สเปเชียล วัน" มักชูโทรฟีแชมป์ทุกสโมสร หากคุมทีมแบบเต็มตัว 1 ซีซัน ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพกับ เอฟซี ปอร์โต เดือนมกราคม 2002 และคว้าแชมป์ ยูฟา ยูโรปา ลีก (ยูฟา คัพ เดิม) ฤดูกาล 2002-03 ตามด้วย แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2003-04
ต่อมา มูรินโญ พิสูจน์ฝีมือกับยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี คว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก กับ ลีก คัพ ฤดูกาล 2004-05 , อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา ฤดูกาล 2008-09 และ รีล มาดริด คว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2010-11
อย่างไรก็ตาม สถิติของ มูรินโญ สิ้นสุดลง หลังรีเทิร์นสู่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฤดูกาล 2012-13 พ่ายเกม ยูฟา ซูเปอร์ คัพ , ตกรอบ 5 เอฟเอ คัพ กับ ลีก คัพ และจบอันดับ 3 พรีเมียร์ ลีก ก่อนกลับสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จ พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก กับ ลีก คัพ ฤดูกาล 2016-17
ล่าสุด มูรินโญ มีเวลานานกว่าครึ่งซีซัน เพื่อให้นักเตะ สเปอร์ส ปรับตัวตามแท็คติก ก่อนภารกิจจะเริ่มต้นอย่างจริงจัง ฤดูกาล 2020-21 เพื่อยุติ 12 ซีซันที่รอคอยของกองเชียร์