ศรีสะเกษ เอฟซี เตรียมยื่นฟ้องศาลแพ่ง หลังโดนตัดแต้ม จนทำให้พลาดเลื่อนชั้น ชี้ต้องการให้สมาคมฟุตบอลฯ ยอมรับความผิดพลาด
หลังจาก "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เอฟซี โดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) สั่งให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หัก 6 แต้ม จากศึกไทยลีก 2 ฤดูกาล 2019 กรณีค้างเงินค่าจ้าง คาเลด คาร์รูบี ตั้งแต่ยังเป็นทีม อีสาน ยูไนเต็ด (และถูกหัก 6 แต้ม ในภายหลัง กรณีนักฟุตบอลเกาหลีใต้) ส่งผลให้ ศรีสะเกษ ชวดขึ้นชั้นมาเล่นไทยลีก 1 เนื่องจากอยู่อันดับ 4 น้อยกว่า ระยอง เอฟซี อันดับ 3 เพียง 2 แต้ม
ขณะเดียวกัน ศรีสะเกษ อ้างว่า เมื่อ 3 พ.ค.62 ได้มีหนังสือขอเนื้อหาคำตัดสินที่โดนตัด 6 แต้ม เพื่ออุทธรณ์ไปยังศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา หรือ ศาลกีฬาโลก(CAS) แต่เมื่อ ฟีฟ่า ส่งหนังสือแจ้งคำสั่งมา สมาคมบอล กลับไม่ส่งต่อมายังศรีสะเกษจนเลยกำหนด และโดนตัด 6 แต้มดังกล่าว
นายธเนศ เครือรัตน์ ประธานสโมสรศรีสะเกษ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ว่า เรื่องนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ บอกว่าพยายามทำเรื่องถึงฟีฟ่า ขอแต้มคืนให้ ศรีสะเกษ แต่ตนเชื่้อว่าคงยาก นอกเสียจากว่า สมาคมฯ จะยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของสมาคมฯที่ไม่ได้ส่งเรื่องให้ศรีสะเกษตามกำหนดเวลา ขณะเดียวกันได้ทำเรื่องไปถึงศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา เพื่อตัดสินเรื่องนี้ ตอนแรกขอให้ตัดสินก่อน 27 ต.ค. ที่เป็นวันปิดลีก 2019 แต่ศาลโลกแจ้งว่าไม่ทัน ตอนนี้เรื่องก็อยู่ระหว่างการไต่สวน เพราะต้องเรียกคู่กรณีคือ คาร์รูบี มาขึ้นศาลด้วย ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมาหรือไม่ ตนคิดว่าจะไม่มาด้วยซ้ำ ในเมื่อ คาร์รูบี ได้เงินไปแล้ว
"เรื่องที่ศาลโลกอยู่ขั้นตอนไต่สวนไม่ทราบว่าจะจบเมื่อไหร่ ผมเครียดมาก นอนไม่หลับมาหลายวัน ไม่รู้จะเตรียมทีมอย่างไร เพราะการเตรียมสำหรับไทยลีก 1 หรือ ไทยลีก 2 ก็ต่างกัน นี่จะทำเรื่องถามศาลโลกถึงระยะเวลาพิจารณา ซึ่งเรื่องฟ้องศาลโลก ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นล้านบาท ฝ่ายสมาคมบอลฯ ก็ไม่ได้ช่วยรับผิดชอบ แล้วถามผมกลับว่าถ้าศาลโลกให้กลับคำตัดสิน จะทำอย่างไร"
ประธานศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน ตนก็เตรียมจะฟ้องศาลในไทยด้วย โดนจะฟ้องศาลแพ่งก่อน จากนั้นอาจฟ้องศาลปกครอง เพราะเป็นเรื่องทำให้ทีมเสียหาย และตนก็ไม่ยอมเป็นจำเลยของคนศรีสะเกษแน่