"มีท เดอะเพรส" ซีเกมส์ 2019 ครั้งที่ 1 ประเมินความพร้อมเเละความคาดหวังทัพไทย ชุดทำศึกซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ โดยรอบเเรก 5 ชนิดกีฬา ตั้งเป้ารวม 10 ทอง โดยลีลาศ ซึ่งเคยเป็นเจ้าซีเกมส์ เมื่อปี 2007 หวัง 3 ทอง ส่วนจักรยาน, ซอฟท์บอล เเละมวยปล้ำ หวัง 2 ทอง ด้านเบสบอล หวังโค่นฟิลิปปินส์ ขอเเชมป์กลับบ้าน
สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว "มีท เดอะ เพรส" การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ โดยเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ณ ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน มี 5 สมาคมกีฬา เดินทางมาแถลงข่าวความพร้อม และตั้งเป้าจำนวนเหรียญทอง โดยงานนี้ได้รับเกียรติ จาก พลตรี จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานเเละเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย เป็นประธาน พร้อมด้วย ไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาเเห่งประเทศไทย เข้าร่วมภายในงานเเถลง
โดย "มีท เดอะ เพรส" ในวันแรก มี 5 สมาคมกีฬา ที่เดินทางมางานแถลงข่าวในวันนี้ ประกอบด้วย สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬาซอฟท์บอลแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาลีลาศแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาเบสบอลแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬามวยปล้ำแห่งประเทศไทย
เริ่มจากสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีชิงชัยทั้งสิ้น 13 เหรียญทอง แบ่งเป็นชาย 9 เหรียญทอง และหญิง 4 เหรียญทอง "โค้ชตั้ม" พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอน เปิดเผยว่า "ทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ กำลังส่งทีมงานสต๊าฟฟ์ของเราไปศึกษาเส้นทางที่ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อให้ได้ทราบถึงรายละเอียดของเส้นทางนั้นๆให้ดีที่สุด ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ของการแข่งขันออกมาเป็นผลดีต่อนักกีฬาของไทย อย่างไรก็ตามมีปัญหาอยู่บางประการในเรื่องของสนามแข่งขันของบางประเภท ทางเจ้าภาพเองยังไม่มีความแน่นอน ก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และไม่อนุญาตให้ชาติอื่นๆเข้าไปฝึกซ้อมก่อน ซึ่งจะมีการอนุญาตให้ชาติอื่นๆไปฝึกซ้อมก่อนการแข่งขันเพียงไม่กี่วัน และบางประเภทจะให้ฝึกซ้อมก่อนแข่งขันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ อาจทำให้เราเสียเปรียบในเรื่องนี้ เพราะการแข่งขันในบางประเภทต้องอาศัยความคุ้นชินในเรื่องของสนามด้วย"
"ส่วนความหวังของนักกีฬาเรา เริ่มจาก BMX ชาย เราหวังจาก โกเมธ สุขประเสริฐ ดีกรีอันดับ 4 ยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ซึ่งช่วงหลังกำลังฟอร์มเข้าฝักมากๆ มีการเดินทางไปเก็บตัวที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่คู่แข่งสำคัญก็คือเจ้าภาพฟิลิปปินส์ ที่มีตัวเก่ง อย่าง แดเนียล ลูกครึ่งอเมริกัน ซึ่งเขาเป็นคนออกแบบสนามที่ใช้จัดการแข่งขันครั้งนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งก็หมายความว่าเขารู้ทุกซอกทุกมุมของสนามแข่งขันมากกว่าเราแน่นอน"
"ขณะที่อีกหนึ่งความหวังของเราก็ประเภทเสือภูเขา ครอสคันทรี หญิง คือ นาตาลี ปัญญาวัน วัย 21 ปี ดีกรีเหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเธอฝึกซ้อมอย่างหนัก และซ้อมได้ดีมาก ถือว่ามีลุ้นเหรียญทองในครั้งนี้ แต่ที่น่ากลัวก็คือเจ้าภาพเขามีตัวเก่งของเขาอยู่เหมือนกัน ส่วนประเภทนี้ในทีมชาย ก็คงลุ้น 1 ใน 3 แต่คงจะเหนื่อยหน่อย เพราะนอกจากเจ้าภาพแล้ว ก็มีอินโดนีเซีย ที่เก่งเหมือนกัน"
"แต่ที่คิดว่าน่าจะได้เหรียญทองแน่ๆ คงหนีไม่พ้น เสือภูเขา ดาวน์ฮิล หญิง จาก วิภาวี ดีคาบาเลส รายนี้ดีกรีเขาไม่ธรรมดาอยู่แล้ว จริงๆแทบจะมองข้ามช็อตในซีเกมส์ไปได้เลยด้วยซ้ำ เพราะเขาผ่านเหรียญทองมาแล้วทั้งชิงแชมป์เอเชีย, เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2018, เหรียญทองซีเกมส์ 2013 ตอนนี้เธอมองไประดับโลก ระดับโอลิมปิกแล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไร เธอน่าจะไม่พลาดเหรียญทองแน่ๆ แต่ติดปัญหานิดหน่อยตรงที่ประเภทนี้เจ้าภาพให้เราซ้อมแค่ 1 ชม.ก่อนแข่งขันจริงเท่านั้น ส่วนผู้ชายเราส่ง เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ ที่เป็นดาวรุ่งไปแข่ง ตอนนี้เขาเพิ่งอายุ 17 ปี แต่มีผลงานที่โดดเด่นมากๆ และอาจสร้างเซอร์ไพรส์แก่ชาติอื่นๆได้"
"ส่วนประเภทลู่ ทางเจ้าภาพบอกว่าไม่มีลู่ที่จะใช้ในการแข่งขัน ทำให้ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ดีกรีเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย อดไปแข่งในครั้งนี้ ซึ่งก็น่าเสียดายเพราะเขาคือหนึ่งในความหวังของเรา ขณะที่ประเภทแมสสตาร์ท บุคคลหญิง แน่นอนว่าเรามี จุฑาธิป มณีพันธุ์ เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2014 และประสบความสำเร็จในซีเกมส์มาค่อนข้างบ่อย ซึ่งล่าสุดเธอได้โควต้าไปลุยโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นแล้ว แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งความหวังเหรียญทองของเรา" พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมจักรยานไทย กล่าว
ส่วนการแข่งขัน "ลีลาศ" มีชิงชัยทั้งสิ้น 14 เหรียญทอง โดย สิทธิชัย ปรียาดารา ผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า "เจ้าภาพจัดการแข่งขันทั้งหมด 14 รายการ ไทยเราเองส่งหมดทุกรายการ แต่เราเคยโดนฟิลิปปินส์โกงมาแล้วในปี 2005 ที่เขาเคยเป็นเจ้าภาพ มีปัญหาเรื่องการตัดสินของคณะกรรมการ แต่อย่างไรก็ตามเราตั้งเป้าทั้งหมด 3 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 3 เหรียญทองแดง ก่อนหน้านี้ได้มีการส่งนักกีฬาไปเก็บตัวที่ประเทศอิตาลี 2 อาทิตย์ รวมถึงเยอรมนี และสโลวีเนีย ซึ่งทางเจ้าภาพยืนยันแล้วว่านักกีฬาลีลาสอาชีพสามารถลงแข่งซีเกมส์ได้ เราก็จะจัดเต็มแน่นอน"
"เรามีนักกีฬาที่ติดท็อป 10 ของโลก ที่มีลุ้น 3 เหรียญทองซึ่งคิดว่าได้แน่ๆ แต่ถ้าการตัดสินเที่ยงตรงและยุติธรรมมากพอ เราก็คงได้มากกว่า 3 เหรียญทอง ซึ่งการแข่งขันลีลาศทุกๆคนก็น่าจะทราบดีว่าอยู่ที่การให้คะแนนของกรรมการล้วนๆ เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ เจ้าภาพฟิลิปปินส์เราไม่กลัวเขาเรื่องฝีมือ แต่เราหนักใจเรื่องการตัดสินมากกว่า"
ด้าน กีฬาซอฟท์บอล ที่มีชิงชัยกัน 2 เหรียญทอง จากชาย และหญิง ชุตินธร เกิดมีสุข เจ้าหน้าที่สมาคมฯ เปิดเผยว่า "ความพร้อมของทีมทั้งชายและหญิงมากกว่า 90 เปอร์เซนต์ ตั้งเป้าเหรียญทองทั้งสองประเภท ซึ่งทีมเจ้าภาพถือว่าน่ากลัวที่สุด แต่เราเคยเจอกันมาแล้วในครั้งก่อนกับฟิลิปปินส์ และก็เป็นเราที่เก็บชัยได้ อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ไปเล่นบ้านเขา อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันเราจะไปเก็บตัวกันที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน"
ขณะที่ เบสบอล มีการชิงชัยทั้งหมด 1 เหรียญทอง จากทีมชาย จากการเปิดเผยของ โชติกา ประยูรคง เจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาเบสบอลฯ กล่าวว่า "มีการดึงผู้เล่นลูกครึ่งต่างชาติมาเสริมทีมราว 6-7 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และไทย-จีน แต่ที่หนักใจที่สุดคือทีมเจ้าภาพที่เขาก็มีตัวลูกครึ่งเช่นกัน และมีฝีมือที่ดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามนักกีฬาของไทยเตรียมตัวกันมาอย่างดี มีความพร้อม 90 เปอร์เซนต์ มีการไปเก็บตัวที่เมืองนานจิง ประเทศจีน มา 15 วัน และมั่นใจว่าสามารถเอาชนะคู่แข่งในอาเซียนได้แน่นอน"
ปิดท้ายที่ นายกิตติพศ สุฉันทบุตร นายกสมาคมกีฬามวยปล้ำเเห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับมวยปล้ำ ชาติที่น่ากลัว คือ เวียดนาม ซึ่งเเข็งเเกร่งเเละพัฒนาขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ไทยก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน โดยที่ผ่านมา สมาคมส่งนักกีฬาไปซ้อมที่เมืองเซิ่นหยาง ของจีน ได้เรื่องความเเข็งเเกร่ง เเละเทคนิคกลับมาเพียบ โดยหนนี้เราส่ง 13 รุ่น เเบ่งเป็นเกรกโกโรมัน (เล่นตั้งเเต่เอวขึ้นไป) 6 รุ่น เเละฟรีสไตล์ 7 รุ่น เชื่อว่าน่ามี 2 ทอง เป็นอย่างน้อย
สรุปผลการประเมินความคาดหวังในกีฬาซีเกมส์ 2019 หรือ "มีท เดอะ เพรส" ครั้งที่ 1 ของทัพนักกีฬาไทยใน 5 ชนิดกีฬา มีโอกาสที่จะคว้ารวมทั้งสิ้น 10 ทอง จาก เบสบอล 1 ทอง, ซอฟท์บอล 2 ทอง, จักรยาน 2 ทอง, ลีลาศ 3 ทอง เเละ มวยปล้ำ 2 ทอง