โต๊ะเล็กทีมชาติไทย จัดการสยบอินโดนีเซียในรอบชิง 5-0 กฤษดา วงษ์แก้ว ซัดเบิ้ลให้ทีมส่งท้ายขึ้นชูถ้วยแชมป์เป็นสมัยที่ 15 ขณะที่ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา คว้าดาวซัลโวหลังยิงไป 7 ลูก ในศึกฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2019 เมื่อ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
ศึกฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2019 ที่สนามฟูโถ สเตเดี้ยม ในกรุงสโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 27 ต.ค.62 เวลา 17.00 น. เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ โดยแข้งโต๊ะเล็กทีมชาติไทย เจ้าของแชมป์รายการนี้ 14 สมัย โคจรมาเจอกับ อินโดนีเซีย อดีตแชมป์ 1 สมัย
เกมนี้ทัพโต๊ะเล็กช้างศึกได้วางเอาชุด 3 ลงสนามก่อน ประกอบด้วย คณิศร ภู่พันธ์ เฝ้าเสา กองหลัง รณชัย จูงวงษ์สุข ริมเส้น อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ กับ วรุฒ หวังสะมาแอล และหน้าเป้าเป็น มูฮัมหมัด อุสมานมูซา
เริ่มเกมขึ้นมาแข้งโต๊ะเล็กไทยก็เป็นฝ่ายบุกทันที โดยที่อินโดนีเซีย มาสูตรเดิมคือตั้งรับแน่นในแดนตัวเอง และไม่ขึ้นมาเพรสด้านบนแต่อย่างใด ซึ่งทีมไทยก็พยายามต่อบอลเร็วแต่ก็ยังพลาดในจังหวะสุดท้ายจนหาโอกาสส่องทำสกอร์ยาก
ผ่าน 4 นาทีไทยเปลี่ยนส่งชุดใหญ่ กฤษดา วงษ์แก้ว,จิรวัฒน์ สอนวิเชียร,ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน และ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง สลับลงไปบ้าง แต่ว่า น.6 แข้งอิเหนา ตัดบอลแล้วสวนกลับที่ แอนดรี้ คุสเตียวาน จบด้วยการยิงไกลบอลเข้ามือ คณิศร ภู่พันธ์ รับไว้ได้
น.8 วรุฒ หวังสะมาแอล กระชากออกซ้ายแล้วตัดสินใจซัดเองบอลออกหลังไม่มีลุ้นอะไร นาทีเดียว เจษฏา ชูเดช ได้บอลในเขตส่งคนหลังให้ รณชัย จูงวงษ์สุข วิ่งเข้ามาอัดเต็มแรงติดกองหลังอินโดฯออกหลังไป
เข้าสู่ น.10 ทีมไทยก็มาเจาะประตูจนได้ เมื่อเตะมุมทางฝั่งซ้าย กฤษดา วงษ์แก้ว เปิดยัดเข้ากลางบอลหลุดไปถึงเท้าของ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา จัดการยิงจ่อๆไม่มีเหลือ ไทยขยับนำ 1-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 7 ของ “เจ้าเหม็ด” ที่มีโอกาสคั่วดาวซัลโวสูงมาก
โต๊ะเล็กช้างศึกได้ลุยต่อ น.12 จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ซัดจากฝั่งขวาบอลโดนกองหลังของอิเหนาหลุดกรอบไปนิดเดียว นาทีเดียวกัน กฤษดา วงษ์แก้ว ได้บอลทางซ้ายโยกหลบผู้เล่นอินโดฯ 2 จังหวะแล้วยิงด้วยเท้าซ้าย มูฮัมหมัด อิคซาน เซฟที่เสาแรกไว้ได้ทัน
แข้งไทยยังคุมเกมได้ดีกว่า น.15 พรมงคล ศรีทรัพย์แสง ได้บอลทางขวาจัดการยิงเอง ก็แรงไปบอลข้ามคานออกหลัง
จากนั้น น.17 อินโดนีเซีย มาทำฟาวล์ครบ 6 ครั้งทำให้ทีมไทยได้จุดโทษจุดที่สอง และ “เทพอาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง จัดการสังหารไม่พลาดเมื่อซัดบอลเรียดเสาโคนเสาด้านซ้ายมือตัวเองตุงตาข่ายทีมไทยขยับหนีไป 2-0
น.18 อินโดฯฯ เล่นบอลยาวบอลถึง แอนดรี้ เกี่ยวลงได้แต่ตวัดบอลจังหวะนี้ช้อนใต้บอลมากไปโด่งออกไปไกล จบครึ่งแรกทีมไทยนำอยู่ 2-0
ครึ่งหลังเกมแข้งไทยยังครองบอลบุก น.21 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง สับไกซัดออกข้างเสา นาทีเดียวกัน อินโดฯมีลุ้นจาก บัมบัง ตวัดที่หน้าประตูแต่ออกข้างเสาไป
น.22 อาเดรียน ได้ซัดเต็มข้อ แต่ คณิศร ภู่พันธ์ ปัดไว้ทัน น.24 เกมรุกของไทยก็ทำกันได้สวย จังหวะสุดท้าย รณชัย จูงวงษ์สุข ผ่านจากซ้ายให้กับ วรุฒ หวังสะมาแอล ซัดเข้าไปเป็น 3-0
เกมจากนั้นเกมเริ่มเดือดมีการปะทะแรงๆกันหลายครั้ง แต่ผู้เล่นทั้งสองทีมต่างก็คุมสถานการณ์กันไว้ได้
เกมมาเป็นอินโดฯที่โหมบุกโดยใช้เพาเวอร์เพลย์ น.32 อาเดรียน ส่องเหน่งๆ ก็ติดเซฟ คณิศร ภู่พันธ์
เกมถึง น.35 จังหวะโต้ของไทยทำได้ผล และเป็น กฤษดา วงษ์แก้ว ที่หลุดขึ้นฝั่งขวากดเข้าไปเป็น 4-0
อินโดฯไม่มีทางเลือกนอกจากใช้เพาเวอร์เพลย์กดดันเข้าใส่ ซึ่งเกมรับไทยก็ต้านไว้ได้ดี จน นาทีสุดท้าย อินโดฯจ่ายบอลกันพลาดเอง กฤษดา วงษ์แก้ว ตัดได้แล้วยิงไกลครึ่งสนามเข้าไปเป็น 5-0
เวลาที่เหลือทีมไทยผ่านเกมลง เน้นรับในแดน ส่วนอินโดฯ ยังหาช่องไม่ได้ หมดเวลา ทีมชาติไทยเอาชนะไป 5-0 คว้าแชมป์ฟุตซอลอาเซียน 2019 ไปครอง และถือเป็นสมัยที่ 15 ที่ทำได้ ขณะเดียวกัน มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ก็คว้าดาวซัลโวไปครองด้วยการยิงไป 7 ประตูด้วยกัน
ผู้เล่น 5 คนแรกทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย – คณิศร ภู่พันธ์ (GK), วรุฒ หวังสะมาแอล, รณชัย จูงวงษ์สุข, มูฮัมหมัด อุสมานมูซา, อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ
อินโดนีเซีย – มูฮัมหมัด อิคซาน (GK), มูฮัมหมัด ริซกี้ ซาเวียร์, โมชามหมัด อิคบัล, มาร์วิน อาลีซ่า, แอนดรี้ คุสเตียวาน
ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 เวียดนาม เจ้าภาพ สามารถเอาชนะเมียนมา ไปได้ 7-3 ทำให้คว้าตั๋วเข้ารอบไปชิงแชมป์เอเชีย 2020 ได้เป็นทีมสุดท้าย