“ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม เข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก รอบ 32 ปี เอาชนะ “แซมบ้า” บราซิล แบบหวุดหวิด 2-1 จาก แฟร์นันดินโญ (ทำเข้าประตูตัวเอง) และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่สนาม คาซาน อารีนา คืนวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม
ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
บราซิล 1-2 เบลเยียม
โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือ เบลเยียม ดร็อป ดรีส เมอร์เทนส์ นั่งสำรอง ส่ง โรเมลู ลูกากู ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า ประสานงาน เอเดน อาซาร์ และ เควิน เดอ บรอยน์ ล่าตาข่าย บราซิล ที่มี เนย์มาร์, กาเบรียล เฆซุส , วิลเลียน และ ฟิลิปเป คูตินโญ เป็นทีเด็ดแนวรุก
บราซิล ทักทายน่ากลัวแค่ 8 นาที เนย์มาร์ เปิดเตะมุมฝั่งซ้าย เจา มิรานดา เสยต่อให้ ติอาโก ซิลวา ชาร์จย้อยๆ ชนเสาแรก ทว่ากลายเป็น เบลเยียม สร้างเซอร์ไพรส์ ขึ้นนำ 1-0 นาที 13 เนเซอร์ แชดลี เปิดเตะมุมฝั่งซ้ายแฉลบหัวไหล่ แฟร์นันดินโญ เข้าประตูตัวเอง
รองแชมป์ ยูโร 1980 ใช้เกมสวนกลับ นาที 31 โรเมลู ลูกากู ลุยมาเอง ไหลออกขวาให้ เควิน เดอ บรอยน์ กดเรียดด้วยขวาเสียบเสาไกล ทิ้งห่าง 2-0 ถัดมานาที 37 “แซมบ้า” หวิดตีไข่แตก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ งัดไม้ตาย ปั่นด้วยขวานอกเขต เล็งเสาสอง ธิโบต์ คูร์ตัวส์ นายทวาร ปัดออกหลัง
สู้กันต่อครึ่งหลัง “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ตั้งรับแน่นหนา เกือบบวกเพิ่มนาที 62 เควิน เดอ บรอยน์ แทงเจาะกราบซ้ายให้ เอเดน อาซาร์ กัปตันทีม ยิงหลุดเสาไกลอย่างน่าเสียดาย แชมป์โลก 5 สมัย บดอยู่นาน กระทั่งนาที 76 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ งัดโด่งให้ เรนาโต ออกุสโต ตัวสำรอง สะบัดเต็มหน้าผาก ไล่มาเป็น 1-2
“เซเลเซา” น่าตีเสมอแบบสุดๆ นาที 90+4 เนย์มาร์ บรรจงปั่นด้วยขวาบริเวณหัวกะโหลก ธิโบต์ คูร์ตัวส์ เหินปัดข้ามคาน จบเกม เบลเยียม ทะลุถึงตัดเชือก นับตั้งแต่ทำไว้ครั้งล่าสุด ปี 1986 พบ ฝรั่งเศส วันอังคารที่ 10 ก.ค. ขณะที่ บราซิล ยังมิอาจลบอาถรรพ์ คว้าแชมป์บนทวีปยุโรป ตั้งแต่ปี 1958 ที่สวีเดน
รายชื่อ 11 ตัวจริง
บราซิล : อลิสสัน , มิรานดา , ติอาโก ซิลวา , มาร์เซโล , ฟากเนอร์ , แฟร์นันดินโญ , ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ , เปาลินโญ , กาเบรียล เฆซุส , เนย์มาร์ , วิลเลียน
เบลเยียม : ธิโบต์ คูร์ตัวส์ , แวงซ็องต์ กอมปานี , แยน แฟร์ตองเกน , โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ , มารูยาน เฟลไลนี , อักเซล วิตเซล , เนเซอร์ แชดลี , โธมัส มิวนิเยร์ , โรเมลู ลูกากู , เอเดน อาซาร์ , เควิน เดอ บรอยน์