คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ สตาร์วงการต่อสู้ศิลปะแบบผสม MMA สุดภาคภูมิใจ แม้จะแพ้ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าสามารถสู้ได้ ส่วนอนาคตจากนี้พร้อมเอาดีสองเส้นทาง
ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นไร้พ่ายชาวอเมริกัน คืนสังเวียนผืนผ้าใบรอบ 2 ปี ก่อนจะคว้าชัยรวดครั้งที่ 50 ตลอดอาชีพเป็นสถิติใหม่ยาวนานที่สุด เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม ตามวัน-เวลาประเทศไทย ณ สนาม ที-โมไบล์ อารีนา มหานคร ลาส เวกัส มลรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการเอาชนะน็อคยก 10 คอนเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ซูเปอร์สตาร์แห่ง อัลติเมต ไฟติง แชมเปียนชิป (UFC)
รูปเกมคือ แม็คเกรเกอร์ อาศัยความสดเดินเกมรุกก่อน ปล่อยหมัดจะแจ้งกว่า ตลอด 3 ยกแรก ทว่า "เดอะ มันนี" ฟลอยด์ วัย 40 ปีมีประสบการณ์ยกการ์ดสูงและตั้งรับเหนียวแน่น ก่อนที่สตาร์ MMA จะหมดแรง เนื่องจากไม่ช่ำชองการชกอาชีพแบบ 12 ยก
หลังเกม แม็คเกรเกอร์ วัย 29 ปีกล่าวว่า "ผมมีทางเลือกมากมายว่าจะเจอกับใครใน MMA ซึ่งตอนนี้ก็รวมถึงมวยสากลอาชีพด้วย แต่ ณ เวลานี้ยังไม่ได้วางอนาคต ทว่าคงกลับไปคิดถึงการต่อสู้ในกรงก่อนเป็นลำดับแรก"
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ชกกับ ฟลอยด์ ยินดีที่ได้สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม แม้ว่าวันนี้จะพ่ายแพ้แต่ไม่ได้กระทบอะไรเลย โดยเป้าหมายจากนี้อาจจะไปทำศึกไตรภาคกับ เน็ต ดิอาซ" นักสู้ชาวไอริช ทิ้งท้าย
ก่อนหน้านี้ในปี 2016 แม็คเกรเกอร์ เจอกับ เน็ต ดิอาซ ชาวอเมริกัน 2 ครั้ง 2 คราก่อนที่จะผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ทำให้อยากจะมีไฟต์ที่ 3 เพื่อตัดสินกันไปเลยว่าใครเจ๋งที่สุดในวงการต่อสู้ MMA