คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
“ดรีม ไฟนัล” ของศึก บาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ (NBA) กำลังจะกลายเป็นฝันร้ายสำหรับแฟนๆ และขุนพล คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เสียแล้ว จากที่มีบางส่วนคาดว่าจะปล้นกลับมาสัก 1 เกม กลายเป็นว่าพ่าย 2 เกมรวด ที่สนาม โอราเคิล อารีนา งานนี้ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เข้าใกล้ประวัติศาสตร์ “อินวิซิเบิล” ตามภาษาฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่เคยมีกุนซืออันเป็นที่รักของกองเชียร์ อาร์เซนอล ทำไว้ ปี 2004
สถานการณ์ล่าสุดของ คาวาเลียร์ส เรียกได้ว่าตอนนี้ปลายเท้าอยู่ห่างจากปากหลุมราวๆ 1 คืบ ก่อนกลับมาดวลกันต่อเกม 3 ที่ควิกเคน โลนส์ อารีนา แน่นอนว่า เลอบรอน เจมส์ และผองเพื่อน คงจะต้องดิ้นรนกันสุดชีวิต เสมือน 2 เกมนับจากนี้ เป็นรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย หากพลาดแม้แต่เกมเดียว ก็ย่อมมีโอกาสที่ วอร์ริเออร์ส จะสวีปซีรีส์ และสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์แบบหล่อๆ ชนะ 16 เกมรวด ตลอดเพลย์ออฟ
อย่างทีททราบกันดี ผลงานของ เลอบรอน ก็ไม่ใช่ขี้เหร่ ล่าสุดกดไป 29 แต้ม 11 รีบาวน์ด 14 แอสซิสต์ นับเป็น “ทริปเปิล-ดับเบิล” หนที่ 8 ของรอบชิงฯ เท่ากับ แมจิก จอห์นสัน ตำนาน แอลเอ เลเกอร์ส แบกความรับผิดชอบ ทั้งตะลุยหาห่วง และช่วยเกมรับ หากร้องเป็นเพลงด้วยเสียง “หน้ากากทุเรียน” ก็ต้องบอกว่า “เป็นทุกอย่างให้ แคฟส์ แล้ว” แต่ แชมป์เก่า ก็ยังไม่รอดพ้นความปราชัย 113-132 ตามหลัง 0-2 เกม (แข่งระบบ 4 ใน 7 เกม)
ไม่รู้ว่าเกมๆ หนึ่ง เลอบรอน จะหมดเรี่ยวหมดแรงแค่ไหน เท่าที่เห็นตาม โซเชียล เน็ตเวิร์ก ก็มีภาพล้อเลียนทั้งจังหวะถูก เควิน ดูแรนท์ โยกหนีจนก้นจ้ำเบ้า หรือ “เพลย์ ออฟ เดอะ เดย์” ของเกม 2 ซึ่ง สตีเฟน เคอร์รี เลี้ยงวนไปมา สลัดหนี “คิงเจมส์” ขึ้นเลย์อัพนิ่มๆ โดยไม่มีใครช่วยซ้อนเลย
เกมรุกของ วอร์ริเออร์ส ชั่วโมงนี้คงจะหยุดลำบาก เคอร์รี ชั่วโมงนี้ สภาพสมบูรณ์เต็มร้อย แม้จะเปรยๆ ว่าเจ็บศอกก่อนเริ่มเกมแรก แต่ตอนนี้ก็น่าจะถอดปลอกแขนทิ้งไปแล้ว เสมือนปลดพลังแฝง ครบเครื่องทั้งส่องวงนอก และเจาะวงใน กอปรกลยุทธ์ “สมอลล์ บอล” ยังมีประสิทธิภาพ โจมตีอย่างรวดเร็ว และเด็ดขาด แถมยังถ่ายบอลกันไหลลื่น แม้เกม 2 แคฟส์ จะเรียกมาได้ 20 เทิร์นโอเวอร์ สุดท้ายก็ยังแพ้ความแม่น
สำหรับอีก 2 เกมชี้ชะตา กลายเป็นการบ้านที่ ไทรอนน์ ลู เฮดโค้ช ต้องพยายามหาทางรับมือเกมบุกอันร้อนแรงของ วอร์ริเออร์ส อย่างน้อยๆ ก็เพื่อไม่ให้ถูกสวีปซีรีส์คาบ้าน เชื่ออยู่ลึกๆ ว่า “แคฟส์” ยังพอสู้ไหว โดย 2 เกมที่พ่ายไปก่อน น่าจะเป็นวันของ เคอร์รี และผองเพื่อนมากกว่า ซึ่งหากจะยังมีลุ้นอยู่ต่อไป ก็ต้องลงสนามเสมือนเป็นเกมตัดสินของซีรีส์ เพื่อดึงโมเมนตัมกลับมา ฟาดฟันกันต่อเกม 4
ทิ้งท้ายกันวันนี้ด้วยสถิติรอบชิงฯ ของ เลอบรอน แบบไม่ต้องย้อนไปไกลมาก สักปี 2014 สมัยอยู่ ไมอามี ฮีต ทำไป 28.2 แต้ม 7.8 รีบาวน์ด 4.0 แอสซิสต์ แต่แพ้ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ค่อนข้างขาด 1-4 เกม ถัดมาปี 2015 ซัดไป 35.8 แต้ม 13.3 รีบาวน์ด 8.8 แอสซิสต์ แพ้แก่ วอร์ริเออร์ส ไป 2-4 เกม สำหรับปีนี้ ฟอร์เวิร์ดวัย 32 ปี ดูเหมือนจะต้องเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆ ตามเคย ซึ่งประวัติศาสตร์ อาจจะซ้ำรอย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *