ผู้จัดการรายวัน 360 - การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ลีก 2016 จบลงด้วยการคว้าแชมป์ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มี 80 คะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด 5 แต้ม แต่เพราะการชี้ชะตาในฤดูกาลดังกล่าวต้องจบลงก่อนกำหนด จึงทำให้ทีมที่พลาดโอกาสพิสูจน์ฝีเท้าตนเองจนถึงนัดสุดท้าย ต้องกระหายที่จะลุกขึ้นมาต่อกรเพื่อตำแหน่งแชมป์ฤดูกาลหน้าแน่นอน ดังนั้น เราจึงได้รวบรวม 5 ทีม ที่เสริมทัพคาดว่าจะขับเคี่ยวกันอย่างมันหยดในปี 2017 นี้
“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด - ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน หัวหน้าผู้ฝึกสอน เริ่มขยับเสริมทัพเพื่อลงป้องกันแชมป์ไทยลีกในปี 2017 และเตรียมความพร้อมสำหรับการลุยศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มด้วย แม้จะต้องเสีย “เจ้าตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางตัวเก่งวัย 23 ปี ไปให้กับทีมร่วมศึกโตโยต้า ไทยลีกอย่าง “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทย โดยถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะได้พบความท้าทายใหม่ นอกจากนี้ ยังปล่อย “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ไปท้าทายที่แดนอาทิตย์อุทัยในช่วงเลก 2 กับ “ฮอกไกโด คอนซาโดล ซัปโปโร” ทีมจ่าฝูงของศึกเจทู 2016
แต่ก็มีการเสริมทัพแล้ว 4 ราย ได้แก่ “เจ้าเย็น” มงคล ทศไกร ปีกขวาทีมชาติไทยชุดแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2016 ที่ย้ายจาก เชียงราย ยูไนเต็ด มาด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี นอกจากนี้ ยังเรียกตัว ศนุกรานต์ ถิ่นจอม, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ และ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ แบ็กขวาดาวรุ่งกลับจากสัญญายืมตัวอีกเช่นกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ทีมใหญ่จากนนทบุรีมีแบ็กขวาใช้งานเพียงรายเดียว คือ ทริสตอง โด ในฤดูกาลที่ผ่านมา จนบางเกมต้องขยับ อดิศร พรหมรักษ์ ไปทำหน้าที่แทน
นอกจากนี้ แข้งทีมชาติรายอื่นก็ยังอยู่กับทีมครบครัน ไม่ว่าจะเป็น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา, ทริสตอง โด และ อดิศร พรหมรักษ์ ที่นังคงเป็นอาวุธหลักที่พร้อมจะสังหารคู่แข่งทีมอื่นอย่างแน่นอน
“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - แม้จะจบอันดับ 4 ในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ยังคงเป็นผู้ท้าชิงทีมสำคัญ ที่ประกาศกร้าวขอกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ กวาดทุกแชมป์ที่ลงเล่นในปี 2017 ส่วนเรื่องการเสริมทัพ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรจากภาคอีสาน ตอนแรกได้ออกมายืนยันว่าจะไม่เสริมทัพ เพราะมั่นใจว่าขุมกำลังที่มีอยู่เพียงพอแล้ว เนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมาเพิ่งเสริมไปถึง 10 รายทั้งนักเตะไทย และต่างชาติ
ได้แก่ ชินพงษ์ รักษี, อดิศักดิ์ เส็นสมเอียด, อับดุลฮาฟิส บือราเฮง, ซากีรีน ตีกาสม, กรกช วิริยอุดมศิริ, รัตนากร ใหม่คามิ, อเล็กซานเดอร์ กษิดิศ ซีกฮาร์ท ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน, จิตปัญญา ทิสุด, รูเบนิลสัน ดอส ซานโตส ดา โรชา หรือ “คานู” ชาวรัสเซีย และ บรูโน ดาเนียล เปอไรรา คาสโตร โมไรรา กองหน้า ปากอส เฟอร์ไรรา จากโปรตุเกส
ประกอบกับได้ผู้เล่นที่บาดเจ็บจากฤดูกาลก่อน กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น โก ซุล กิ กองกลางสารพัดประโยชน์จากเกาหลีใต้, “กัปตันกบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ กรวิทย์ นามวิเศษ นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นดาวรุ่งหลายคน อย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ, สิทธิโชค กันหนู ที่พร้อมลงแย่งเป็น 11 คนแรกของทีมอีกด้วย
แต่ล่าสุดก็ได้คว้าตัว เยนดริค รุยซ์ กองหน้าชาวคอสตาริกา จากทีม เฮเรเดียโน รองแชมป์ลีกคอสตาริกา มาเสริมทีม เพื่อดับเครื่องชนทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนมาอย่างแน่นอน
“กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด - เจ้าบุญทุ่มรายใหม่ของไทยลีกที่ควักเงินจำนวนมหาศาลกว่า 300 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมทีมเชียงราย และดูดแข้งดังเข้าเสริมทีมมากมาย พร้อมตั้งเป้าหมายติดอันดับลุยถ้วยเอเชียให้ได้อีกด้วย โดยเริ่มจากเปิดตัว อเล็กซานเดร กามา อดีตกุนซือปราสาทสายฟ้า ชุด 5 แชมป์ประวัติศาสตร์ ถูกแต่งตั้งเป็น เฮดโค้ชแทนที่ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น หลังจากเดินทางกลับจากการอบรมหลักสูตรโปรไลเซนส์ ประเทศบราซิล มาคุมทีมฝึกซ้อมเตรียมสู้ศึกฤดูกาล 2017 ทันที
โดยมีนักเตะดีลประวัติศาสตร์ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางตัวรับของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ข้ามฟากมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมูลค่าสูงถึง 50 ล้านบาท นอกจากนั้น ดึงตัวนักเตะชั้นดีฝีเท้ายอดเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของทีมอย่าง สุริยา สิงห์มุ้ย (เมืองทอง ยูไนเต็ด), ฉัตรชัย บุตรพรม (ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ), ศิวกรณ์ เตียตระกูล (บีอีซี เทโรศาสน), พิธิวัฒน์ สุขจิตรธรรมกุล (บีอีซี เทโรศาสน), ปฐมพล เจิญรัตนาภิรมย์ (พัทยา ยูไนเต็ด), ชินภัทร์ ลีเอาะ (พัทยา ยูไนเต็ด)
ขณะที่ผู้เล่นต่างชาติในทีมเหลือเพียง มาร์ค บริดจ์ ดาวยิงตัวเก่งของ เวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส ทีมในศึกเอลีก ออสเตรเลีย ไว้ใช้งานเพียงคนเดียว และยืนยันว่าจะมีเปิดตัวต่างชาติอย่างฮือฮาถึง 2 รายในช่วงต้นปี 2017 อีกด้วย
“กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี - หลังจบอันดับ 3 ไทยลีก 2016 ฤดูกาลหน้าถือว่าน่าจับตามองไม่น้อยหน้าใครเมื่อมีการเสริมตัวแบบอลังการงานสร้าง ด้วยการปิดดีลคว้า อรรถวิทย์ สุขช่วย กองกลางวัย 20 ปี ที่ย้ายจาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อดีตกองกลางทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และ บิลล์ สีดา ดาวเตะลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ที่สามารถเล่นได้ทั้งกองหน้าและกองกลางตัวรุก เข้ามาร่วมทีมด้วยระยะเวลา 2 ปี
นอกจากนี้ ยังมี “เจ้าอินซ์” เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ห้องเครื่องมันสมองของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ เมื่อปีที่แล้ว รวมถึง “เอ๋” พิศาล ดอกไม้แก้ว นายทวารจอมเก๋าวัย 32 ปี จากชัยนาท ฮอร์นบิล มายืนเฝ้าเสาอีกคนด้วย
กระต่ายแก้ว ยังจับมือกับ เซเรโซ โอซากา ทีมดังแห่งประเทศญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรลูกหนังที่จับมือกันมาอย่างยาวนานตลอด 4 - 5 ปี โดยทั้งสองสโมสรช่วยกันพัฒนาทั้งด้านเทคนิคและเยาวชน รวมถึงมีการส่งนักเตะดาวรุ่งไทยไปฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่นเพื่อเก็บประสบการณ์และพัฒนาฝีเท้าต่อยอดในลีกไทย โดยในปีหน้าจะมีการส่งนักเตะอายุ 23 ปี มาร่วมซ้อมกับทีมบางกอกกล๊าสช่วงปรีซีซันนี้ และหากโชว์ฟอร์มเข้าตาทีมงานจากรังสิต คลอง 3 ก็พร้อมเซ็นสัญญาเป็นนักเตะใหม่ของทีมทันที
“แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด - ในฤดูกาลที่ผ่านมามีการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลปรับโฉมทีม พร้อมดึงตัวนักเตะมากประสบการณ์เข้ามาร่วมทีม และสามารถคว้ารองแชมป์ไทยลีกไปครอง พร้อมบรรลุเป้าหมายร่วมศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2017 ตามที่ตั้งเป้าไว้
แบงค็อก ทีมเงินหนาแห่งศึกโตโยต้าไทยลีก ได้เรียกเสียงฮือฮาด้วยการคว้าตัว โยฮัน ตาบาเรส เซนเตอร์ฮาล์ฟของ เอสโตริล ปราญา ทีมในลีกโปรตุเกส รวมทั้ง ออสการ์ คาห์ล นักฟุตบอลดาวรุ่งลูกครึ่งไทย - สวีเดน วัย 19 ปี จากสโมสรเอไอเค โซลนา ทีมในลีกสูงสุดประเทศสวีเดน มาร่วมทัพลุยซีซั่นหน้า โดยยังมี กิลแบร์โต มาเชนา กองหน้าชาวบราซิล และ มาริโอ ยูรอฟสกี มิดฟิลด์ชาวมาซิโดเนีย เป็นกำลังสำคัญในการพาทีมสู่ตำแหน่งแชมป์ไทยลีก 2017
ถือเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า ทุกทีมมีต้องการที่จะเปิดศึกแย่งแชมป์ไทยลีกกับสองยักษ์ใหญ่ เมืองทองฯ และ บุรีรัมย์ อย่างชัดเจน และมั่นใจว่า ความสนุกของไทยลีกในอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า จะมีมากขึ้น ตามนโยบายของสมาคมกีฬาฟุตบอล ที่จะมีการปรับลดทีมจาก 18 ให้เหลือ 16 ทีม แน่นอนว่าจะทำให้การจัดการการแข่งขันที่ดีขึ้น รวมไปถึงความเข้มข้นในการขับเคี่ยวของทีมในลีกสูงสุด ที่จะเหลือแต่ทีมที่แข็งจริง แกร่งจริง และจะสนุกขึ้นอย่างแน่นอน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *