มร.ชาน ฮิว มิง วิทยากรที่เข้าร่วมการอบรมโค้ชจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” ยอมรับแทบไม่อยากเชื่อว่าประเทศไทยจะมีผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมระดับ “โปรไลเซนส์” เพียงคนเดียว
เมื่อวันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2559 เวลา ณ สนามเอสซีจี สเตเดียม การอบรมหลักสูตร AFC Pro - Diploma Coaching Course ส่วนที่ 1 ดำเนินมาถึงวันสุดท้ายของการอบรม โดยมี มร.ชาน ฮิว มิง วิทยากรจากสมาคมฟุตบอลมาเก๊า และผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด 21 คน
ภายหลังพิธีปิด มร.ชาน ฮิว มิง วิทยากร กล่าวว่า “ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ผมมาประเทศไทย หลังก่อนหน้านี้ ผมเคยเดินทางมาที่นี่ในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อเปิดอบรมคอร์สรากหญ้า ผมรู้สึกมีความสุขและดีใจมากที่ได้รับเกียรติมาเป็นวิทยากรในคอร์สที่ประเทศไทย”
“ผมรู้สึกดดันเล็กน้อย เพราะไทยเพิ่งคว้าแชมป์อาเซียนมาครอง และเป็นหนึ่งในผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ทั้งเรื่องของลีกและเรื่องของทีมชาติ และถือเป็นชาติที่มาตรฐานในกีฬาฟุตบอลสูงมาก และถือเป็นโอกาสและความท้าทายที่ได้มาถ่ายทอดความรู้แก่โค้ชชาวไทย”
“อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่รู้ว่าประเทศไทยมีโค้ชที่ถือใบอนุญาตระดับโปรไลเซนส์แค่คนเดียว เพราะถ้าดูจากเกมไทยลีกแล้ว มันเป็นการแข่งขันที่มีคุณภาพสูง มันอาจจะช้าไปหน่อยสำหรับการอบรมโค้ชระดับโปรไลเซนส์ในประเทศไทย แต่ผมคิดว่าก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่ม แต่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่จำนวนโค้ชโปรไลเซนส์ แต่อยู่ที่คุณภาพของโค้ชที่นี่”
“สำหรับผมโค้ชที่เข้าร่วมอบรมต่างมีทัศนคติที่ดีมาก พวกเขาทุ่มเทตลอดทั้งสองบทเรียนที่ผ่านมา พวกเขามีความรู้ และ คอนเซปต์ในการทำงานมากมาย และพวกเขายังพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่มากมาย หลายคนอาจจะมีปัญหาเรื่องภาษา แต่พวกเขาก็พยายาม สำหรับผมถือว่าน่าพอใจมาก”
“ในอนาคตผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นโค้ชไทยไปทำงานในต่างประเทศมากกว่านี้ ดูอย่างวิทยา เลาหกุลที่เคยมีประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของภาษา อย่างที่บอกไทยคือหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางด้านฟุตบอลในภูมิภาคอาเซียน พวกเขาพัฒนาขึ้นมาตลอด มีโค้ชมืออาชีพมากขึ้น และผมเชื่อว่าพวกเขาสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับประเทศอื่นๆ ได้ดีแน่นอน”
“มันยากที่จะบอกนะว่าทุกคนจะผ่านการอบรมครั้งนี้หรือไม่ ผมไม่สามารถการันตีได้ว่าใครจะผ่านหรือไม่ผ่าน ผมหวังว่าโค้ชทุกคนจะผ่านการอบรมครั้งนี้ โค้ชต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเข้าใจในการเป็นโค้ชระดับโปรไลเซนส์ เพื่อก้าวไปเป็นโค้ชระดับสูงในทวีปเอเชีย” ตัวแทนจาก “เอเอฟซี” กล่าว
สำหรับผู้ฝึกสอนชาวไทย ที่มี “โปรไลเซนส์” เพียงคนเดียวคือ “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตโค้ช และนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เข้ารับการอบรมสมัยไปค้าแข้งที่ “เอสลีก” ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2011
เมื่อวันอังคารที่ 27 ธันวาคม 2559 เวลา ณ สนามเอสซีจี สเตเดียม การอบรมหลักสูตร AFC Pro - Diploma Coaching Course ส่วนที่ 1 ดำเนินมาถึงวันสุดท้ายของการอบรม โดยมี มร.ชาน ฮิว มิง วิทยากรจากสมาคมฟุตบอลมาเก๊า และผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด 21 คน
ภายหลังพิธีปิด มร.ชาน ฮิว มิง วิทยากร กล่าวว่า “ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองที่ผมมาประเทศไทย หลังก่อนหน้านี้ ผมเคยเดินทางมาที่นี่ในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อเปิดอบรมคอร์สรากหญ้า ผมรู้สึกมีความสุขและดีใจมากที่ได้รับเกียรติมาเป็นวิทยากรในคอร์สที่ประเทศไทย”
“ผมรู้สึกดดันเล็กน้อย เพราะไทยเพิ่งคว้าแชมป์อาเซียนมาครอง และเป็นหนึ่งในผู้นำในภูมิภาคอาเซียน ทั้งเรื่องของลีกและเรื่องของทีมชาติ และถือเป็นชาติที่มาตรฐานในกีฬาฟุตบอลสูงมาก และถือเป็นโอกาสและความท้าทายที่ได้มาถ่ายทอดความรู้แก่โค้ชชาวไทย”
“อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่รู้ว่าประเทศไทยมีโค้ชที่ถือใบอนุญาตระดับโปรไลเซนส์แค่คนเดียว เพราะถ้าดูจากเกมไทยลีกแล้ว มันเป็นการแข่งขันที่มีคุณภาพสูง มันอาจจะช้าไปหน่อยสำหรับการอบรมโค้ชระดับโปรไลเซนส์ในประเทศไทย แต่ผมคิดว่าก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่ม แต่สิ่งสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่จำนวนโค้ชโปรไลเซนส์ แต่อยู่ที่คุณภาพของโค้ชที่นี่”
“สำหรับผมโค้ชที่เข้าร่วมอบรมต่างมีทัศนคติที่ดีมาก พวกเขาทุ่มเทตลอดทั้งสองบทเรียนที่ผ่านมา พวกเขามีความรู้ และ คอนเซปต์ในการทำงานมากมาย และพวกเขายังพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่มากมาย หลายคนอาจจะมีปัญหาเรื่องภาษา แต่พวกเขาก็พยายาม สำหรับผมถือว่าน่าพอใจมาก”
“ในอนาคตผมเชื่อว่าเราจะได้เห็นโค้ชไทยไปทำงานในต่างประเทศมากกว่านี้ ดูอย่างวิทยา เลาหกุลที่เคยมีประสบการณ์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเรื่องของภาษา อย่างที่บอกไทยคือหนึ่งในประเทศมหาอำนาจทางด้านฟุตบอลในภูมิภาคอาเซียน พวกเขาพัฒนาขึ้นมาตลอด มีโค้ชมืออาชีพมากขึ้น และผมเชื่อว่าพวกเขาสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับประเทศอื่นๆ ได้ดีแน่นอน”
“มันยากที่จะบอกนะว่าทุกคนจะผ่านการอบรมครั้งนี้หรือไม่ ผมไม่สามารถการันตีได้ว่าใครจะผ่านหรือไม่ผ่าน ผมหวังว่าโค้ชทุกคนจะผ่านการอบรมครั้งนี้ โค้ชต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเข้าใจในการเป็นโค้ชระดับโปรไลเซนส์ เพื่อก้าวไปเป็นโค้ชระดับสูงในทวีปเอเชีย” ตัวแทนจาก “เอเอฟซี” กล่าว
สำหรับผู้ฝึกสอนชาวไทย ที่มี “โปรไลเซนส์” เพียงคนเดียวคือ “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตโค้ช และนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เข้ารับการอบรมสมัยไปค้าแข้งที่ “เอสลีก” ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2011