xs
xsm
sm
md
lg

“นครบาล” เอาผิดมือพลุป่วนราชมังฯ ส่อโดนแจ็กพอตฝ่าฝืนประกาศ “คสช.” เพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยพร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มกองเชียร์จอมป่วนที่จุดพลุภายในสนามราชมังฯ เร่งตรวจสอบหากเข้าข่าย พ.ร.บ. ดอกไม้ไฟ หรือ ประกาศของ คสช. ก็พร้อมจัดหนัก

ภายหลังการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016” ที่ทีมชาติไทย สามารถเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน เอาชนะ อินโดนีเซีย 3-2 จากสกอร์รวม 2 นัด พร้อมกับคว้าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 5 มากกว่าทุกชาติ

อย่างไรก็ตาม ทั้งก่อนเกมการแข่งขัน ระหว่างเกม และภายหลังจบเกม มีกลุ่มแฟนบอลจำนวนหนึ่งฝ่าฝืนข้อห้ามในการจุดพลุ ภายในสนาม แม้จะถูกตำหนิจากแฟนบอลส่วนใหญ่ รวมทั้งยังสุ่มเสี่ยงต่อการถูกลงโทษจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” และสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ “เอเอฟซี”

ขณะที่ล่าสุด พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ภายหลังจากที่เห็นภาพของกองเชียร์ดังกล่าวในการถ่ายทอด และการส่งต่อในโลกออนไลน์ได้สั่งการให้ ผู้กำกับการ สน.หวหมาก ลงไปสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับผู้ที่จุดพลุแฟลร์ในสนามราชมังคลากีฬาสถานแล้ว

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อไปด้วยว่า จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวมีการนำพลุหลบซ่อนเข้าไปในอุปกรณ์เชียร์ และเมื่อถึงช่วงการแข่งขันก็นำขึ้นมาจุด ซึ่งต้องมีการสอบสวนว่าจงใจทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยหรือไม่

“จากข้อมูลทราบว่า กลุ่มดังกล่าวมีปัญหาในระหว่างการเชียร์กับทีมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศบ่อยครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการข่าวอยู่ก่อนแล้วว่าจะมีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น จึงมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและสายสืบ เข้าไปในกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าว แต่กลุ่มดังกล่าวมีการตรวจสอบที่ค่อนข้างเข้มงวด และไม่ยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มของตัวเองเข้าไปร่วมเชียร์ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ต้องอยู่ภายในและนอกสนามเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งภาพถ่ายคลิปวิดีโอ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ในโลกโซเชียลมีเดียแล้ว รวมถึงการโพสต์ก่อนการแข่งขันไว้เป็นพยานหลักฐานแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุบางคนมีการใช้ผ้าปกปิดหน้าตา เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ หากระบุได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใครก็จะออกหมายเรียกมาให้การกับทางเจ้าหน้าที่ต่อไป” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ยังมีการระบุด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งรัฐเป็นผู้เสียหาย แต่หากประชาชนคนใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าว ก็สามารถเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. พลุดอกไม้ไฟ และประกาศของ คสช. ข้อใดหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่อยู่ในกลุ่มกองเชียร์ดังกล่าวอย่างแน่นอน และอาจเอาผิดถึงแกนนำของกลุ่มดังกล่าวด้วย เพราะทำให้เสียภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลและประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น