พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาฯ และโฆษกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยืนยันไทยถูกปรับหลักล้านแน่นอน เหตุแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ พร้อมเข้าชี้แจงต่อสมาพันธ์ฟุตบอลอาเซียน เพื่อไม่ให้บานปลายถึงขั้นถูกแบนสนาม ในศึกคัดบอลโลก 2018
หลังเหตุการณ์แฟนบอลไทยจุดพลุแฟลร์ในสนามเกมรอบชิงชนะเลิศ “ซูซูกิคัพ 16” นัดสอง เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสิ่งต้องห้ามของเกมฟุตบอลระดับนานาชาติ โดยผู้ควบคุมการแข่งขันได้เขียนรายงาน และทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลไทยฯ ได้รับบทลงโทษปรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดย “โจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาฯ และโฆษกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลไทย จะต้องงถูกลงโทษปรับหลักล้านบาทแน่นอน แต่สมาคมกีฬาฟุตบอลจะทำเรื่องชี้แจงไปยังสมาพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) ถึงมาตรการป้องกันที่ได้วางเอาไว้
“สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืน สมาคมฯ จะต้องทำการชี้แจงเพื่อให้การถูกลงโทษผ่อนหนักเป็นเบา ซึ่งเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ไประงับเหตุจุดพลุแฟลร์ภายใน 4 นาที นอกจากนี้ ยังมีเหตุโยนพลุแฟลร์ลงไปในสนามก่อนเกมเริ่มด้วย ทำให้โทษของเราหนักขึ้น แต่ยังสามารถทำการแข่งขันต่อได้ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะถูกปรับหลักล้านแน่นอน”
“ทั้งนี้ ยังถือว่าเหตุการณ์ไม่รุนแรงเหมือนกับกรณีของมาเลเซีย ที่ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) ตัดสินให้เป็นฝ่ายแพ้ซาอุดีอาระเบีย 0-3 แบบอัตโนมัติ ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ที่แฟนบอลเจ้าถิ่นสร้างความวุ่นวายในนาทีที่ 87 ด้วยการโยนพลุไฟลงมาในสนาม ในตอนที่ทีมเยือนนำอยู่ 2-1 โดยมันทำให้เกิดเขม่าควันเต็มไปหมด จนกรรมการมองว่าไม่สามารถทำการแข่งขันต่อได้ และสมาคมฟุตบอลมาเลเซีย ยังโดนปรับเงินอีก 40,000 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 1.48 ล้านบาท) พร้อมห้ามแฟนบอลเข้าชมเกม นัดถัดมาที่ต้องเจอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกด้วย” อดีตผู้จัดการ ฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจสโมสรชลบุรี เอฟซี กล่าว
นอกจากนี้ โฆษกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย เข้ามาชี้แจงถึงสาเหตุที่ปล่อยให้แฟนบอลนำอุปกรณ์ต้องห้ามเข้าไปภายในสนาม และเบื้องต้นได้รับรายงานผู้กระทำความผิดแล้ว โดยจะเตรียมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ทีมชาติไทยมีคิวแข่งขันรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ในวันที่ 23 มีนาคม 2560 เปิดบ้านพบ ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย, 28 มีนาคม ออกไปเยือน ทีมชาติญี่ปุ่น, 13 มิถุนายน เปิดบ้านพบ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 31 สิงหาคม เปิดบ้านพบ ทีมชาติอิรัก และ 5 กันยายน ออกไปเยือนทีมชาติออสเตรเลีย