ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - 4 นัดที่ผ่านไปของศึก เวิลด์ คัพ 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 หรือ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม เอ จีน เก็บได้แต้มเดียว จนตามมาสู่การแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกของ เกา ฮองโบ
ส่วนคนที่เข้ามาแทนนั้นน่าสนใจสุดๆ เพราะคือ มาร์เซลโล ลิปปี กุนซือฝีมือเอกอุที่เคยพา อิตาลี คว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006
สถานการณ์ของ จีน ตอนนี้นั้นรั้งบ๊วยกลุ่ม โอกาสคว้าที่ 1 กับ 2 เพื่อไป รัสเซีย แบบอัตโนมัติไม่ง่าย เพราะ อิหร่าน นำอยู่ด้วยการมี 10 แต้ม ตามด้วย อุซเบกิสถาน 9 แต้ม ส่วนอันดับ 3 พื้นที่เพลย์ออฟเพื่อลุ้นต่ออีกยก เกาหลีใต้ จับจองอยู่มี 7 แต้ม
ดังนั้น ภายใต้การคุมทัพของ ลิปปี 6 เกมที่เหลือ จีน ไม่อยากเห็นความพ่ายแพ้แบบอดสู พร้อมเปิดโอกาสให้อดีตกุนซือ “ม้าลาย” ยูเวนตุส มาทดสอบนักเตะรวมถึงวางระบบเพื่อสร้างทีมแห่งอนาคต
ลิปปี กล่าวในงานเปิดตัวที่ ปักกิ่ง ว่า “ดูจากตารางคัดเลือก เวิลด์ คัพ 2018 ไม่ใช่ไปเป็นไม่ได้ เพียงแต่สถานการณ์น่ากังวล ส่วนผมต้องการสร้างทีมและยกระดับนักเตะให้มีความเชื่อมั่น โปรแกรมที่เหลือหากเราชนะ 3 หรือ 4 เกม แต่วืดตั๋วแค่แต้มเดียว ก็ถือว่าได้เห็นการพัฒนาแล้ว”
จีน นั้นทราบดีอยู่แล้วว่ายากไปสู้ ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ นอกจากนี้ ยังมี ออสเตรเลีย กับบรรดาชาติอาหรับขวางทางอยู่ จึงต้องเล่นของหนักใช้บริการกุนซืออย่าง ลิปปี
หน้าที่ของ ลิปปี ก็คือ ถ่ายทอดความสำเร็จจากระดับสโมสรสู่ทีมชาติ เพราะเคยคุม กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ระหว่างปี 2012-14 คว้าแชมป์ ไชนีส ซูเปอร์ ลีก 3 สมัย, ไชนีส เอฟเอ คัพ 1 สมัยและ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย
ลีกจีนนั้นไม่ได้มีแค่ ลิปปี ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงาน แต่ยังมีกุนซืออย่าง สเวน-โกรัน อิริคส์สัน ตอนนี้คุม เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี กับ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ที่คุม กวางโจว เอเวอร์แกรนด์
ไม่ใช่แค่นั้นบรรดานักเตะยังดูดจากยุโรปไปค้าแข้งก่อนวัยอันควรเพียบ โดยตั้งแต่ต้นปี 2016 ที่ผ่านมา รวมกับของเดิมก็มี เปาลินโญ, แชร์วินโญ, อซาโมอาห์ กียาน, เดมบา บา, รามิเรส, ทิม เคฮิลล์, เฟรดี กัวริน, โมฮาเหม็ด ซิสโซโก, แจ๊คสัน มาร์ติเนซ และ ฮัลค์
พวกนี้นั้นสโมสรจีนยอมจ่ายค่าตัวแพงระยิบทีมยุโรปถึงตาโตปล่อยตัว ขณะที่นักเตะแม้ว่าจะวัยเพิ่งใกล้จะแตะ 30 ปี พอเห็นค่าเหนื่อยก้อนโตก็ตาลุกวาว อาทิ เอซกีเอล ลาเวซซี กองหน้าอาร์เจนไตน์ ที่ยังสามารถเล่นระดับสูงสุดได้อีกหลายปี พอซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ลา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไปอยู่กับ เหอเป่ย ไชนา ฟอร์จูน
ทั้งหมดใช้เงินมหาศาลเรียกได้ว่าไม่มีสโมสรไหนของเอเชีย พร้อมที่จะเดินรอยตาม แต่จีนนั้นทุ่มแบบเจ๊งเป็นเจ๊ง เหนืออื่นใดเพราะมีรัฐบาลจีนคอยหนุนหลังช่วยแบกภาระ
แน่นอนว่า โควตานักเตะต่างชาติพวกนี้ย่อมมาเบียดบังดาวรุ่งท้องถิ่นของจีนในการที่จะขึ้นชุดใหญ่ ถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่สโมสรแดนมังกรไม่คิดเช่นนั้น เพราะหากมองอีกแง่หนึ่งก็เหมือนเป็นการปลุกกระแสและกระตุ้นแข้งในประเทศไปในตัว หากไม่เวิร์คพวกเขาก็จะไม่ใช้แผนนี้ในระยะยาว
สำหรับค่าจ้างของ ลิปปี คนเดียวมีการเปิดเผยว่าอยู่ที่ 4.5 ล้านยูโร (ประมาณ 170 ล้านบาท) ต่อปี นอกจากนี้ เขาและทีมงานจะได้อีก 15.5 ล้านยูโร (ประมาณ 590 ล้านบาท) ต่อปี ในการทำงานให้ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ในฐานะที่ปรึกษาและดูแลด้านอคาเดมี
ไม่แค่นั้นเมื่อปีที่แล้วฟุตบอลได้รับการบรรจุให้เป็นภาคบังคับของหลักสูตรแห่งชาติจีนที่ว่าจะเปิดโรงเรียนฟุตบอล 20,000 แห่งภายในปี โดยมีวัตถุประสงค์ผลิตผู้เล่นมากกว่า 1 แสนคน เพราะแน่นอนหากไร้การพัฒนาระดับรากหญ้า ก็ไม่มีทางมี ลิโอเนล เมสซี หรือ คริสเตียโน โรนัลโด ที่มีสายเลือดจีน
ปัจจุบันจีนรั้งที่ 84 ของโลก ที่ผ่านมาเคยไปเตะ เวิลด์ คัพ ครั้งเดียวปี 2002 เพราะ ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ ได้โควตาเจ้าภาพร่วมไป ก่อนที่จะแพ้ 3 นัดรวดรอบแบ่งกลุ่มยิงไม่ได้เลยเสีย 9 ประตู
ทั้งหมดคือการเดินเกมของจีนร่วมกับรัฐบาลที่ต้องการจะไปเตะ เวิลด์ คัพ อีกครั้ง โดยหากไม่เกิดขึ้นปี 2018 ก็อาจจะเป็นปี 2022 ที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพ ทว่า หากฝันยังไม่เป็นจริงปี 2026 ก็จะยื่นเป็นเจ้าภาพให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา น่าจะวนกลับมาให้ชาติเอเชียเป็นเจ้าภาพอีกครั้งและแดนมังกรก็ดูจะมีความพร้อมมากที่สุด
ดูจากการวางหมากของจีนแล้วน่าเป็นห่วงแทน “ช้างศึก” ทีมชาติไทยเหลือเกินในการลุ้นไปเตะ เวิลด์ คัพ ครั้งแรก เพราะจะมีคู่แข่งเพิ่มอีกรายในอนาคตที่ยิ่งทำให้ฝันนั้นไกลออกไปอีก หากปี 2018 ไม่ประสบความสำเร็จ
เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *