ฟิล ธอมป์สัน อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ระหว่างปี 1971 - 1984 ที่มีดีกรีเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 7 สมัย เขียนคอลัมน์ผ่านสื่ออย่าง “สกาย สปอร์ตส์” โดยยก 5 ปัจจัยที่จะหยุดการรอคอย 27 ปี ของสาวก “เดอะ ค็อป” ด้วยการส่ง “หงส์แดง” ก้าวไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้
1. นักเตะบาดเจ็บ - ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ตัดสินว่าสโมสรใดจะก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ ดูอย่าง เลสเตอร์ ซิตี เมื่อปีที่แล้วที่ได้แชมป์ประวัติศาสตร์ คีย์แมนนั้นยืนระยะได้ตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่ง ลิเวอร์พูล ต้องพึ่งแนวรุกอย่าง ฟิลิปเป คูตินโญ, โรเบอร์โต เฟอร์มิโน, ซาดิโอ มาเน, อดัม ลัลลานา และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ โดยตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่ 10 นัด แต่คนละนั้นยังฟิตเต็มถัง
2. ฟอร์มในบ้าน - สำคัญไม่น้อยเหมือนกัน ดูอย่างที่ผ่านมาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์นั้นชนะเกือบทุกเกมในบ้าน ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล 4 นัด ใน แอนฟิลด์ ชนะ 3 เสมอ 1 นัด ยิงได้ 11 ประตูเสีย 3 ประตู ซึ่งหลายปีมานี้ “หงส์แดง” ยังเล่นได้ไม่ดีต่อเนื่องในบ้าน ดังนั้น เจอร์เกน คล็อปป์ ในฐานะกุนซือต้องคิดเรื่องนี้ เพราะก็มีนักเตะคนที่ 12 หรือ “เดอะ ค็อป” คอยหนุนหลังอยู่แล้ว
3. ชนะในเกมที่ต้องชนะ - ฟังดูเหมือนง่าย แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว ลิเวอร์พูล ยังทำได้ไม่ดีนัก ฤดูกาลนี้คือเกมที่บุกพ่าย เบิร์นลีย์ 0-2 ส่วนปีที่แล้วก็ไม่อาจชนะทีมอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, วัตฟอร์ด และ สวอนซี ซิตี ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ คล็อปป์ จะต้องจัดการให้ได้
4. เกมรับ - 10 นัดผ่าน ลิเวอร์พูล คลีนชีตนัดเดียวคือเกมที่เปิดบ้านเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 อีกทั้งแนวรับยังผิดพลาดให้เห็นล่าสุดที่บุกชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2 ดีที่แนวรุกยิงช่วยชีวิตเอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า คล็อปป์ ทำการบ้านอย่างหนัก โดยเปลี่ยนตั้งแต่ผู้รักษาประตูที่มาเชื่อใจ ลอริส คาริอุส ซึ่งต้องให้เวลา ถ้าจำกันได้ ดาบิด เด เคอา ของ แมนฯยู มาแรกๆ ก็แบบนี้
5. ผู้จัดการทีม - แน่นอนการมาของ คล็อปป์ ถือว่าเป็นแรงกระตุ้นชั้นดี โดยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักเตะและแฟนบอล จากผลงานในอดีตที่เคยพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กอบโกยความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งก็ไม่ง่ายเลยกับการเปลี่ยน ลิเวอร์พูล จากก่อนหน้านี้ให้มาเล่นดี ณ ปัจจุบันนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *