ผู้จัดการรายวัน 360 - ในชีวิตนักกีฬาทีมชาติไทย คงมีไม่กี่คนที่ได้รับพระมหากรุณารับสั่งให้เข้าเฝ้าเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย “วิว” เยาวภา บุรพลชัย เจ้าของเหรียญทองแดงเทควันโด ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ถือเป็นหนึ่งคนที่โชคดีได้รับเกียรติสูงสุดในชีวิตนี้
หลังมีโอกาสได้เดินทางไปยังพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเหล่าบรรดา “ฮีโร่” ที่ช่วยกันคว้ามาได้ 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง อาทิ อุดมพร พลศักดิ์, ปวีณา ทองสุก, อารีย์ วิรัฐถาวร และ วรพจน์ เพชรขุ้ม จากการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ "เอเธนส์เกมส์"
ซึ่ง "วิว" เยาวภา ที่ทราบว่าจะเดินทางไปพร้อมกับผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการกีฬาเพื่อเข้าเฝ้าฯ “ในหลวง” ค่ำคืนนั้นเจ้าตัวถึงกับนอนไม่หลับจนรุ่งสาง เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่า เกิดมาชาตินี้จะมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเหมือนกับคนอื่นเขา เนื่องจากเคยเห็นพระองค์แต่เพียงในจอโทรทัศน์เท่านั้น
“ส่วนตัวไม่เคยคิดมาก่อนว่า ชีวิตนี้จะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ และเห็นพระพักตร์ในหลวงอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ รู้สึกประทับใจและดีใจอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะตัวเองเป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนั้นอายุแค่ 19 ปีเอง ที่สำคัญได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ กันหมดทั้งครอบครัวคือคุณพ่อธำรงค์ คุณแม่สมศรี และน้องชายประกิต บุรพลชัย ทุกวันนี้หากพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ยังขนลุกไม่หายเลย เพราะเหมือนความฝันที่มาเร็วมาก”
โดย เยาวภาพ บอกเล่าถึงบรรยากาศการเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2547 เป็นไปด้วยความเป็นกันเอง “ในหลวง” ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งแก่ทุกคนในเรื่องของความอดทนและพากเพียรพยายาม ด้วยการนำบทพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก" มาเล่าให้ทุกคนได้รับฟังนานพอสมควร เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า พระมหาชนก ทรงอดทนว่ายน้ำในมหาสมุทรด้วยความเพียรพยายาม 7 วัน 7 คืน จนได้พบกับ นางมณีเมขลา ก็เปรียบเสมือนกับชีวิตของการเป็นนักกีฬาจะต้องรู้จักอดทนอดกลั้นและหมั่นฟิตซ้อมดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ สักวันหนึ่งก็ไปสู่จุดมุ่งหมายความสำเร็จได้
รวมทั้งพระราชทานพระราชดำรัสทรงชื่นชมนักกีฬาที่นำความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ใจความว่า "กีฬาเป็นการฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง และต่อไปคนคงสนใจกีฬามากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมว่าต้องมีสมาธิและความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อ จึงจะประสบผลสำเร็จได้ ขอชื่นชมพ่อ-แม่ที่ให้กำลังใจ ตลอดจนผู้ฝึกสอนรวมไปถึงสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ทำให้นักกีฬาประสบผลสำเร็จ"
นอกจากนั้นฮีโร่จอมเตะ ยังเล่าถึงวินาทีสำคัญที่นักกีฬาพร้อมใจนำเหรียญรางวัล "เอเธนส์เกมส์" ที่ได้รับมา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทว่าพระองค์ไม่ขอรับ แต่กลับนำเหรียญทั้งหมดมาคล้องคอให้ทุกคนแทน พร้อมรับสั่งว่า "ไม่มีเหรียญใดภาคภูมิใจเท่ากับความสำเร็จที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตัวเอง ขอให้ทุกคนจงเก็บเหรียญนี้เอาไว้เถอะ เราไม่ต้องการ และขอให้ทุกคนจงรักษาความดีอย่างสม่ำเสมอ"
"หลังจากมีพระราชดำรัสแก่นักกีฬาทุกคนแล้ว พระองค์ทรงพระราชทานหนังสือพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” ให้พวกเรากลับมาอ่าน เพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติตนในเรื่องของความดีด้วย พร้อมกันนี้พระองค์ท่านยังทรงให้นักกีฬาทั้งหมดและผู้บริหารสมาคม ร่วมกันถ่ายภาพกับพระองค์ท่านแบบไม่ถือพระองค์แต่อย่างใด" เยาวภา เล่าด้วยความปลื้มปิติ
สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับวงการกีฬามาโดยตลอด ทรงเน้นย้ำเรื่องความมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย นับเป็นแบบอย่างที่ดีให้นักกีฬายึดเป็นที่ตั้ง และน้อมนำคำสอนของพระองค์ไปปรับใช้ในการแข่งขันและดำเนินชีวิตประจำวันได้สืบไป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *