“โค้ชด่วน” ฝ่าความกดดัน สานตำนาน “ลูกยางไทย”

ผู้จัดการรายวัน 360 - หลายเดือนที่ผ่านมา แฟนลูกยางน่าจะได้ยินชื่อ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล กันจนหนาหูตามการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ เพราะคือตัวเต็งเข้ามารับบทกุนซือใหญ่ทัพวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย หลังจาก “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ประกาศลาออก และไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่สาธารณรัฐประชาชนจีน

“โค้ชด่วน” ปัจจุบันวัย 45 ปี เริ่มแจ้งเกิดในวงการวอลเลย์บอล หลังจากเข้าศึกษาที่วิทยาลัยพลศึกษากรุงเทพ และได้เป็นนักกีฬาของทางวิทยาลัย ก่อนที่ทางสตาฟฟ์โค้ชจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ทาบทามให้ร่วมทีม เขาจึงตัดสินใจย้ายไปเรียนปี 1 ใหม่ ร่วมกับมหาวิทยาลัยดังกล่าว เมื่อถึงปี 2542 จากนั้นได้รับการทาบทามจาก พงษ์เทพ เครือชะเอม ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกทีมเดียวกันให้มาช่วยทำทีมวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย เข้าแข่งขันที่จังหวัดฟุกุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น และเขาได้พาทีมคว้าเหรียญทองกลับมาได้

จากนั้นปี 2556 โค้ชจากแดนที่ราบสูง ก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนให้แก่วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในการแข่งขันศึกอินวิเตชัน ที่จีน โดยมี “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน จากนั้น ในเดือนกรกฎาคมของปีเดียวกัน ก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนให้แก่ทีมชาติไทย ร่วมกับ “โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค ในการแข่งกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2013 ที่จัดขึ้น ณ ประเทศรัสเซีย

อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชคนสำคัญ ผู้มีส่วนช่วยให้วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้ครองแชมป์การแข่งรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2013 ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดนครราชสีมา จากผลงานในครั้งนี้เอง ที่ทำให้เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.) จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกด้วย

หลังจากได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของทีมลูกยางสาว “โค้ชด่วน” ก็ประเดิมผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันวอลเลย์บอล ศึกมองเทรอซ์ วอลเลย์ มาสเตอร์ โดยการสร้างประวัติศาสตร์พาทีมชนะ ตุรกี (ทีมอันดับ 10 ของโลก และแชมป์เก่า) และในศึกเอวีซี คัพ ก็ใช้การผสมผสานนักตบสายเลือดใหม่ คว้าอันดับ 3 มาครองได้อย่างยอดเยี่ยม

โดย “โค้ชด่วน” เผยการทำทีมของตนใน 2 แมตช์ล่าสุด ว่า เป็นแผนที่สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยฯ วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะยังไม่ได้มีการแต่งตั้งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่างเป็นทางการ “ก่อนอื่นต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการของสมาคมฯ ว่าใครคือหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่แท้จริง ส่วนตัวจึงไม่อยากพูดรายละเอียดเรื่องนี้มาก”

“ที่ผ่านมา จากการแข่งขัน 2 รายการ จะเห็นว่า มีการใช้ผู้เล่นชุดที่สองหลายคน เพราะต้องยอมรับว่านักกีฬารุ่นพี่อายุมากขึ้น ทำให้มีการเปลี่ยนบทบาทมาช่วยประคองน้องแทน แน่นอนว่าเมื่อขาดนักกีฬาชุดเดิม ประสิทธิภาพของทีมก็เปลี่ยนไป ผมจึงพยายามประคองทีมให้ใกล้เคียงมาตรฐานเดิมมากที่สุด”

นอกจากนี้ กุนซืออดีตจอมตบ ยอมรับว่า การที่ถูกจับตามองว่าต้องเป็นตัวเต็งในการรับบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอน ทำให้รู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย “ต้องยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ โค้ชอ๊อตทำผลงานไว้ดีมาก นักกีฬาประสบความสำเร็จไม่น้อย แต่มาถึงยุคนี้นักกีฬาหลายคนเริ่มโรยราลง ทำให้ต้องดันดาวรุ่งขึ้นมาทดแทน ส่วนตัวมั่นใจในศักยภาพเด็กทุกคน แต่ต้องให้เวลาในการพัฒนาฝีมือ เหมือนที่รุ่นพี่ทุกคนเคยได้รับ ดังนั้น จึงอยากให้ทุก ๆ คน ให้เวลาเด็ก ๆ ทั้งหมดด้วย”

สำหรับปีนี้ทัพลูกยางสาวทีมชาติไทยไม่มีโปรแกรมให้ลงประชันฝีมือแล้ว แต่ในปีหน้ามีรายการใหญ่อย่าง วอลเลย์บอลเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รวมทั้งซีเกมส์ ที่มาเลเซีย รออยู่ จึงถือเป็นเวทีพิสูจน์ศักยภาพของดาวรุ่งและหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่างแท้จริง ก็ต้องมาคอยดูว่าจะสามารถผสมผสานผู้เล่นเข้าหากันจนนำไปสู่ความสำเร็จของทีมชาติไทยได้หรือไม่
มีความคุ้นเคยกับนักตบชุดนี้อย่างดี