คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “สรเดช เพชรแสงใสกุล”
วงการกีฬาใครที่ได้รับการยกย่องว่า เป็น “The King” คือ จะต้องมีสถิติ หรือผลงานอภิมหาอลังการงานสร้าง
แต่ยกเว้นฟุตบอลที่ตำแหน่งนี้ถูกถกเถียงมาช้านานคล้าย ๆ ปัญหาโลกแตก คือ “เปเล กับ ดิเอโก มาราโดนา” ใครเก่งกว่ากัน? ไม่แค่นั้นลามมาถึงยุคนี้ว่า “ลิโอเนล เมสซี กับ คริสเตียโน โรนัลโด” ใครคือที่สุดของที่สุด
เพราะบ้างก็จะยกข้อดีของแต่ละฝ่ายออกมาอ้างอิงถึงว่าใครดีกว่ากันตรงไหนอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับกอล์ฟเรื่องแบบนี้ยอมรับกันทั้งวงการว่าใครคือ “คิง ออฟ กอล์ฟ” แต่เมื่อถามคำถามนี้บางคนอาจจะฉุกคิด บ้างเด็กรุ่นใหม่ ๆ ก็จะตอบว่าเป็น ไทเกอร์ วูดส์
ซึ่งคำตอบนั้นไม่ผิด เพราะ “พญาเสือ” นั้นกอบโกยความสำเร็จชนิดที่ว่าใครก็ยากลอกเลียนแบบในช่วงทศวรรษที่ 1990 - 2000
แต่ถ้าไปถาม ไทเกอร์ ก็จะได้ทราบคำตอบว่าที่สุดนั้นคือชายที่ชื่อว่า อาร์โนลด์ พาลเมอร์
ทว่า น่าเศร้าเพราะเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา พาลเมอร์ เสียชีวิตอย่างสงบใน พิตต์สเบิร์ก ด้วยอายุ 87 ปี สาเหตุนั้นไม่มีการเปิดเผย แต่คาดว่า เป็นเพราะโรคชรา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของศึก พีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2016 พอดี
โดย รอรีย์ แม็คอิลรอย หนุ่มจากไอร์แลนด์เหนือ คว้าแชมป์ “ทัวร์ แชมเปียนชิป” พร้อมส่งให้คะแนนสะสมชนะเลิศ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ซิวเงินก้อนโต 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากนี้ก็เหลือโปรแกรมแค่ ไรเดอร์ คัพ เป็นการดวลกันของยุโรป กับสหรัฐอเมริกา
แน่นอนว่า ช่วงนี้ตามหน้าสื่อก็จะมีการไว้อาลัย พาลเมอร์ ทั้ง ไทเกอร์ ได้ออกมากล่าวถึงการจากไปครั้งนี้ รวมถึง บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 44
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม พาลเมอร์ ถึงได้รับการยอมรับจากทุกคน ทั้งที่ตัวเลขการคว้าแชมป์นั้นสู้ ไทเกอร์ หรือคู่ปรับร่วมยุคอย่าง แจ็ก นิคคลอส ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
พาลเมอร์ คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ 7 ครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่การประกาศศักดาบนแผ่นดินเกิดเท่านั้น แต่ยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปที่สหราชอาณาจักรซิวถ้วย “คลาเร็ต จัก” ชนะเลิศศึก “ดิ โอเพน” 2 ครั้ง คือ ปี 1961 กับ 1962 โดยเมเจอร์เดียวที่ไม่เคยได้ชื่นชม คือ “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ผลงานดีที่สุด คือ ที่ 2 ถึง 3 ครั้ง
แต่สิ่งที่ พาลเมอร์ สร้างเอาไว้นั้นยิ่งกว่าผลงานแค่ในสนาม โดยระหว่างปี 1958 - 1964 คือ ชายที่ถูกยกย่องให้เป็น “เดอะ คิง” ช่วงนั้นเป็นยุคบุกเบิกของวงการโทรทัศน์ที่ใครต่อใครหลายคนเริ่มได้ชมเกมกอล์ฟผ่านทางเครื่องรับมากขึ้น ทุกคนเมื่อได้เห็นวงสวิงก็ต่างยื่นใบสมัครขอเป็นแฟนคลับจนกลุ่มคนเหล่านี้ไปไหนต่อไหนได้รับการขนานนามว่า “อาร์นี อาร์มี”
ซึ่งหมายถึงแรงบันดาลใจและการจดจำ ไทเกอร์ ก็ยอมรับว่า มี พาลเมอร์ เป็นไอดอล นอกจากนี้ ตอน “พญาเสือ” รุ่ง ๆ ก็เคยได้รับคำปรึกษาดี ๆ เป็นประจำ
พาลเมอร์ ยังอยู่ในใจทุกคนไม่เคยจางหายพิสูจน์ได้จากการที่ถ้าคุณเดินเข้าผับไปสั่งบาร์เทนเดอร์ ว่า “อาร์โนลด์ พาลเมอร์” จะร้องอ๋อ และรู้ว่าสิ่งที่ต้องการ คือ ชาเย็น กับมะนาว เพราะมีแบรนด์เป็นหน้าตัวเองไปโผล่ข้างบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *