เอเยนซี - ศึกกอล์ฟฝั่งสหรัฐอเมริกา พีจีเอ ทัวร์ ดำเนินมาถึงรายการสุดท้ายของฤดูกาล 2016 “ทัวร์ แชมเปียนชิป” ชิงเงินรางวัลรวม 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 297 ล้านบาท) ระหว่างวันที่ 22 - 25 กันยายนนี้ ณ อีสต์ เลก กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,154 หลา พาร์ 70 แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย
ซึ่งรายการดังกล่าวเป็นซีรีส์สุดท้ายของ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” จากทั้งหมด 4 อีเวนต์ เพื่อตัดสินว่านักกอล์ฟคนใดจะคว้าโบนัสก้อนโต 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 350 ล้านบาท) ดังนั้น ลองไปดูกันว่าใครมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน โดยคัดเลือกมาฝากกันทั้งหมด 5 คนที่ล้วนเป็นมือพระกาฬทั้งสิ้น
1. ดัสติน จอห์นสัน (รั้งที่ 1 มี 2,000 แต้ม) นาทีนี้ไม่มีใครฟอร์มร้อนแรงเกินมือ 2 ของโลกชาวอเมริกัน ปีนี้ได้แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ มาแล้ว 3 รายการรวมที่ปลดล็อคได้เมเจอร์แรกในชีวิต คือ “ยูเอส โอเพน” เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดซีรีส์ที่ 3 ของ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” คือ “บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป” ก็เพิ่งจะสอยแชมป์มาหมาด ๆ ดังนั้น ความมั่นใจไม่ต้องพูดถึง โดยนักกอล์ฟคนสุดท้ายที่มาแข่ง “ทัวร์ แชมเปียนชิป” ด้วยสถานการณ์รั้งตำแหน่งผู้นำ แล้วได้โบนัสก้อนโต ก็คือ ไทเกอร์ วูดส์ โปรคนดังของสหรัฐอเมริกาอดีตมือ 1 โลกทำเอาไว้เมื่อปี 2009
2. เจสัน เดย์ (รั้งที่ 4 มี 1,440 แต้ม) ความร้อนแรงของโปรชาวออสซีไม่ได้น้อยหน้า “ดีเจ” เลยในฤดูกาลนี้ จากผลงานแชมป์ 3 รายการทำให้รั้งมือ 1 ของโลกอย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ ผลงานศึก “ทัวร์ แชมเปียนชิป” จบท็อป 10 ถึง 3 ครั้งในการปรากฏตัว 5 ครั้งหลังสุด เมื่อปีที่แล้วคว้าแชมป์ซีรีส์ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” ได้ถึง 2 รายการคือ “เดอะ บาร์เคลย์ส” กับ “บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป” แต่สุดท้ายแล้วโบนัสมหาศาลกลับไปตกอยู่ในมือของ จอร์แดน สปีธ ชาวอเมริกัน อย่างน่าเสียดาย
3. รอรีย์ แม็คอิลรอย (รั้งที่ 6 มี 1,120 แต้ม) คืนฟอร์มช่วงท้ายคว้าแชมป์ซีรีส์ที่ 2 ของ “เฟดเอ็กซ์ คัพ” คือ รายการ “ดอยต์ช แบงก์ แชมเปียนชิป” จนพุ่งขึ้นมามีลุ้นเช่นกัน แต่ต้องการโชคไม่น้อยหากจะคว้าโบนัสก้อนโตเป็นครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมาใกล้เคียงจะทำสำเร็จ 2 ครั้ง โดยต้องได้แชมป์ “ทัวร์ แชมเปียนชิป” แล้วแช่งให้ จอห์นสัน จบที่ 2 หรือแย่กว่า อดีตมือ 1 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ อยากสัมผัสเกียรติยศนี้ใจจะขาด เพราะที่ผ่านมาก็สร้างชื่อในยุโรปเคยได้ “เรซ ทู ดูไบ” มาแล้วถึง 3 ครั้ง
4. จอร์แดน สปีธ (รั้งที่ 7 มี 960 แต้ม) ปีที่แล้วคว้าแชมป์ “ทัวร์ แชมเปียนชิป” ก่อนที่จะปาดหน้าคว้าโบนัสไปครองเป็นครั้งแรก ทว่า มาปีนี้ฟอร์มไม่เปรี้ยงเหมือนปี 2015 ที่ได้ 2 แชมป์ระดับเมเจอร์ ทว่า ก็มีแชมป์ 2 ใบติดไม้ติดมือ จนตอนนี้หนุ่มชาวอเมริกันวัย 23 ปี รูดรั้งมือ 4 ของโลก ส่วนปีนี้นั้นไม่ง่ายเลย เพราะเงื่อนไขคือจะต้องเป็นแชมป์และลุ้นถึง 3 ต่อ แน่นอนว่า ซีรีส์นี้ชิงชัยกันที่แผ่นดินสหรัฐอเมริกา ดังนั้น ทุกคนอยากเห็นลงเล่นก๊วนเดียวกับ “ดีเจ” ในวันสุดท้ายเพื่อเรียกเรตติงความมันระดับทวีคูณ
5. พอล เคซีย์ (รั้งที่ 5 มี 1,280 แต้ม) เรียกได้ว่า เก๋าที่สุดในบรรดา 5 คนที่คัดเลือกมานี้เลยก็ว่าได้ ด้วยวัย 39 ปีก้านเหล็กรายนี้อาจจะเป็นม้ามืดก้าวไปหยิบชิ้นปลามันกลับบ้านก็เป็นได้ โดยที่ผ่านมานั้นไม่เคยได้แชมป์ระดับเมเจอร์ แชมป์ พีจีเอ ทัวร์ ก็ได้แค่รายการเดียว แต่จะไปหนักทาง ยูโรเปียน ทัวร์ ที่ได้มาถึง 13 รายการ เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่โปรชาวอังกฤษไม่ติดทีมยุโรปไปลุยศึก “ไรเดอร์ คัพ” ที่จะมีขึ้น 30 กันยายนนี้ ส่วนศึก “ทัวร์ แชมเปียนชิป” ปีที่แล้วจบห่างจากแชมป์เพียงแค่ 4 สโตรกเท่านั้น
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *