เชส ฟาเบรกาส ดาวเตะชาวสแปนิช กลายเป็นชายผู้นำชัยให้กับ “สิงห์บลูส์” หลังกด 2 ประตูช่วงต่อเวลาพิเศษ ดับ เลสเตอร์ ซิตี ที่เหลือ 10 คนไป 4-2 ศึก อีเอฟแอล คัพ รอบสาม ขณะที่ ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซนอล กำชัยเข้ารอบกันถ้วนหน้า
อีเอฟแอล คัพ
เลสเตอร์ ซิตี 2-4 เชลซี
ศึกฟุตบอล อีเอฟแอล คัพ (แคปิตอล วัน คัพ ชื่อเดิม) รอบสาม บิ๊กแมตช์จาก 2 ทีม พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เลสเตอร์ ซิตี แชมป์ลีกเก่า เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดียม รับ เชลซี เกมนี้เจ้าบ้านปรับทีมส่ง ชินจิ โอกาซากิ นำทัพคู่ อาห์เม็ด มูซา ส่วนทีมเยือนส่งสำรองเช่นกันมี วิคเตอร์ โมเสส กับ เปโดร เป็นหัวหอก
เริ่มเกมมา 2 นาที เชลซี ทักทายก่อน มิชี บาตชัวยี จ่ายบอลมาถึง วิคเตอร์ โมเสส ยิงด้วยขวาแต่ออกข้าง ทว่า นาที 16 เลสเตอร์ กลับเป็นฝ่ายขึ้นนำแบบโชคช่วยนิดหน่อยเมื่อกองหลัง เชลซี สกัดไม่ขาดแล้ว ชินจิ โอกาซากิ แหวกขึ้นมาโหม่งข้ามเส้นประตูเข้า นำ 1-0
เชลซี พยายามสู้ นาที 26 เปโดร เปิดโค้งมาให้ มิชี บาตชัวยี โหม่งแต่ก็ยังไม่เข้ากรอบ แต่แล้ว นาที 34 เจ้าบ้านโอกาสบุกน้อยกว่าแต่ได้ประตูอีกแล้ว 2-0 ชินจิ โอกาซากิ พักอกในเขตโทษแล้วยิงตกพื้นบอลลอดขา ดาวิด ลุยซ์ เลยข้ามเส้นประตูไปแล้วอีกครั้ง
“สิงห์บลูส์” โหมบุกเพื่อเอาประตูปลุกความหวัง ก่อนทำได้สำเร็จ ทดเจ็บ นาที 46 เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมแล้ว แกรี เคฮิลล์ โหม่งเข้าไปไม่พลาด จบครึ่งแรก เชลซี ไล่มา 1-2
ครึ่งหลังแวบเดียว นาที 50 เชลซี ทวงคืนตีเสมอจนได้ กองหลัง เลสเตอร์ เคลียร์ไม่ขาดแล้ว เซซาร์ อัสปิลิกูเอตา หวดสวนตูมเข้า 2-2 ต่อมา นาที 67 ทีมเยือนมีฮึด ดิเอโก กอสตา ตัวสำรอง พักบอลแล้วชงต่อให้ มิชี บาตชัวยี ม้วนแล้วซัดแต่ รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ บินปัดปลายมือ
นาที 73 เลสเตอร์ ชวดขึ้นนำเหลือเชื่อ อาห์เม็ด มูซา กระชากสู้เข้าเขตโทษแล้วชิปแบบเผาขน แต่ แอสเมียร์ เบโกวิช ปัดปลายนิ้ว ท้ายเกม นาที 88 เชลซี เกือบได้ประตูชัยจากฟรีคิกของ ดาวิด ลุยซ์ ปั่นข้ามกำแพงไปแล้วแต่ก็ข้ามคานด้วย จบ 90 นาที หาผู้ชนะไม่ได้ ต่อเวลาเพิ่ม แถม เลสเตอร์ เหลือ 10 คน เพราะ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี โดนใบแดงเพราะศอกใส่ กอสตา ก่อนจบ
เริ่มต้นต่อเวลา นาที 91 เชลซี พลิกนำจนได้ เอเดน ฮาซาร์ด ตัวสำรองทำชิ่งกับเพื่อนแล้วแปะให้ เชส ฟาเบรกาส ซัด 3-2 และเวลาไม่นาน นาที 96 ก็บวกเพิ่มได้อีก แดนนี ดริงค์วอเตอร์ โหม่งบอลพลาดเข้าทาง เชส ฟาเบรกาส เติมแล้วยิงเสยเพดานให้ เชลซี ทิ้ง 4-2 และนั่นก็เป็นการพังประตูที่ส่งให้ “สิงห์บลูส์” ลอยลำเข้ารอบไปเรียบร้อย
ด้านผลอีก 2 คู่ของทีมใหญ่ที่เตะวันเดียวกัน ลิเวอร์พูล ฟอร์มฮอตบุกถล่ม ดาร์บี เคาน์ตี 3-0 จาก รากนาร์ คลาวาน, ฟิลิปเป คูตินโญ และ ดิว็อค โอริกี ส่วน อาร์เซนอล บุกยำ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 4-0 จาก กรานิต ชากา, ลูคัส เปเรซ 2 ประตูและ อเล็กซ์ ออกซ์เลดจ์-แชมเบอร์เลน ปิดท้าย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลสเตอร์ ซิตี - รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี, เวส มอร์แกน, เบนจามิน ชีเวลล์, แดนนี ซิมป์สัน, แดนนี ดริงค์วอเตอร์, แอนดี คิง, เจฟ ชลุปป์, เดอมาไร เกรย์, อาห์เม็ด มูซา, ชินจิ โอกาซากิ
เชลซี - แอสเมียร์ เบโกวิช, ดาวิด ลุยซ์, แกรี เคฮิลล์, มาร์กอส อลอนโซ, เซซาร์ อัสปิลิกูเอตา, รูเบน ลอฟตัส-ชีค, เชส ฟาเบรกาส, เนมานยา มาติช, มิชี บาตชัวยี, เปโดร, วิคเตอร์ โมเสส
ผลฟุตบอล อีเอฟแอล คัพ รอบสาม
บอร์นมัธ 2-3 เปรสตัน นอร์ธ เอนด์
ไบรธ์ตัน 1-2 เรดดิง
ดาร์บี เคาน์ตี 0-3 ลิเวอร์พูล
เอฟเวอร์ตัน 0-2 นอริช ซิตี
ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
เลสเตอร์ ซิตี 2-4 เชลซี
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 วูลฟ์แฮมตัน
นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-4 อาร์เซนอล