ผู้จัดการรายวัน 360 - หลังจากทัพนักกีฬายกน้ำหนักของไทย กวาดเหรียญรางวัลโอลิมปิก กรุยทางไว้ให้แล้ว 4 เหรียญ ปัจจุบันก็ยังไม่มีท่าทีจะได้เพิ่ม ล่าสุดความหวังอันดับ 1 ของชาติ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงหมายเลข 4 ของโลก จอดป้ายรอบ 16 คนสุดท้ายต่อหน้าคู่ปรับเก่าจากญี่ปุ่น ทำให้เวลานี้ทัพนักเทควันโด และ กอล์ฟ ที่เตรียมตัวลงแข่งสัปดาห์นี้ ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งในการต่อสู้คว้าเกียรติยศเพื่อประเทศชาติ
ศึกแบดมินตัน “ริโอ เกมส์” ที่ ริโอ เซ็นเตอร์ พาวิลเลียน 4 เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศ บราซิล คืนวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา รัชนก ขนไก่สาวความหวังอันดับ 1 ของเมืองไทย ที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาด้วยสถิติสมบูรณ์แบบ 2-0 เผชิญหน้า อากาเนะ ยามากูชิ จาก ญี่ปุ่น คู่นี้เจอกันมา 9 ครั้ง รัชนก เฮดทูเฮดดีกว่า 5-4 ทว่าผลงานค่อนข้างสูสีจึงเดายาก แต่สุดท้ายก็เป็น ยามากูชิ ที่ล้างแค้นจากความพ่ายแพ้ใน สิงคโปร์ โอเพน ชนะไป 2-0 เกม 21-19, 21-16
ผลทำให้ ยามากูชิ ตะลุยสู่รอบ 8 คนสุดท้ายเจอ โนโซมิ โอกุฮาระ เพื่อนร่วมชาติ แถมยังเป็นการดับไฟความหวังของแฟนขนไก่ชาวไทย เมื่อเขี่ยมือ 1 ของแดนสยามตกรอบ ทำให้ “น้องเมย์” ที่เดินทางมาลุยศึกห้าห่วงเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต จบเส้นทางลุ้นเหรียญในรอบเดียวกับ “ลอนดอน เกมส์” เมื่อ 4 ปีก่อน ทว่า ด้วยอายุยังน้อย ทำให้ยังไม่สายสำหรับการกลับมาแก้มือสำหรับอีก 4 ปีข้างหน้าที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
จบการแข่งขัน รัชนก ให้สัมภาษณ์รู้สึกผิดหวังที่เล่นไม่ออก ส่วนหนึ่งเพราะคาดหวังตัวเองว่าจะต้องได้เหรียญกลับไป บวกกับไม่สามารถรับมือกับความกดดันที่ถาโถมเข้ามา “เราได้กำลังใจดีมาก มีคนส่งใจเชียร์เยอะ เมย์ ก็อยากทำให้ได้ตามที่หวังคือเอาเหรียญรางวัล แต่ดูเหมือนเป็นความกดดันของตัวเอง เมื่อกดดันแล้วก็เกร็ง เล่นผิดพลาดเยอะ ถึงจะพยายามจะเล่นให้ได้ในเกมของตัวเอง เล่นตามแผนของโค้ช แต่กลับทำไม่ได้อย่างที่ต้องการ”
นอกจากนี้ ขนไก่สาวมือ 1 ของไทย ยอมรับว่า ปัญหาเรื่องการตรวจสารกระตุ้นก่อนหน้านี้ มีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อจิตใจพอสมควร “ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่ได้มาแข่งแล้ว แต่เมื่อได้มาแล้วก็พยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสภาพร่างกายมันไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า เมย์ เองยังไม่อาจควบคุมตัวเองได้ในครั้งนี้ ยอมรับว่า ผิดหวัง แต่คงไม่ถึงขั้นต้องเลิกเล่น เพราะเรายังต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเราสามารถประสบความสำเร็จได้”
“โอลิมปิก ไม่เหมือนรายการอื่น เพราะ 4 ปี มีครั้งเดียว ไม่เหมือนรายการระดับ ซูเปอร์ ซีรีส์ ที่มีให้แข่งขันทุกปี นักกีฬาทุกคนคาดหวังมากใน โอลิมปิก ดังนั้นจะบอกว่าไม่กดดันก็คงไม่ได้ ทุกคนพยายามอย่างมากในทุกเกม โดยสำหรับ เมย์ เชื่อว่าหากอยู่ในฟอร์มที่ดีก็สามารถเอาชนะได้ทุกคน และคงต้องกลับไปแก้ไข ยังมีโอกาสอีก 4 ปีข้างหน้า ต้องขอโทษแฟนๆ ที่เราไม่สามารถทำได้ในวันนี้” รัชนก กล่าวทิ้งท้ายถึงการกลับไปแก้มือที่ “โตเกียว เกมส์”
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทัพนักกีฬาไทย เวลานี้ยังคงจำนวนเหรียญไว้ที่ 4 เหรียญ 2 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง จากนักกีฬายกน้ำหนักเหมือนเคย ก่อนที่ภาระสำคัญในการลุ้นเหรียญรางวัลในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ จะตกไปอยู่ที่ กอล์ฟ ประเภทบุคคลหญิงที่มี “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล กับ ดีกรีมือ 2 โลก แชมป์เมเจอร์คนแรกของไทย กับ “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ ซึ่งจะเริ่มแข่งกันในวันที่ 17 พฤศจิกายน นี้ ที่ โอลิมปิก กอล์ฟ คอร์ส
ส่วนอีกหนึ่งความหวังคือกีฬาเทควันโด งวดนี้ส่ง “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ มือ 1 ของชาติ เจ้าของอันดับ 2 โลก รุ่น 49 กก.หญิง และเหรียญทองชิงแชมป์เอเชียสมัยล่าสุด รวมถึงเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คนคือ “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ รุ่น 58 กก.ชาย และ “นก” พรรณนภา หาญสุจินต์ รุ่น 57 กก.หญิง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การดูแลโดย “โค้ชเช” เช ยอง ซอก ติวเตอร์ชาวเกาหลีใต้ที่คุมงานมาทุกสมัย
สำหรับ เทควันโด แข่ง 17 - 18 สิงหาคม ด่านแรกของ พาณิภัค รุ่น 49 กก. หญิง พบกับ มาเรีย อันดราเด จากหมู่เกาะเคปเวิร์ด ด้าน พรรณนภา รุ่น 57 กก. หญิง ประเดิมลุย เอวา คัลโว มือ 2 ของรุ่นจาก สเปน ส่วน เทวินทร์ รุ่น 58 กก. เจอ คิม แต ฮุน จากเกาหลีใต้ ชาติต้นตำรับ แน่นอนว่า 2 คนหลังถือว่างานหนัก แต่ เทควันโด เป็นกีฬาที่ตัดสินได้ภายในกระบวนท่าการเตะครั้งเดียว ดังนั้น ต้องดูแบบห้ามกะพริบตา รวมถึงกอล์ฟ ที่ต้องแข่งกับตัวเองเป็นหลัก หากนักกีฬาทั้งสองชนิดรับมือกับความกดดันได้ดี ทัพไทยอาจมีเหรียญคล้องคอเพิ่มเติมก่อนปิดฉาก 21 สิงหาคม นี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *