การแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่เมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล หนนี้นอกจากจะเป็น โอลิมปิก ที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาไร้สัญชาติร่วมชิงชัยแล้ว ยังอนุญาตให้พระสงฆ์ผู้ถือศีลได้ลงแข่งขันเช่นกัน ดังเช่น ญี่ปุ่น ที่คราวนี้นิมนต์ “พระสงฆ์” มาล่าเหรียญทองด้วย
คาซูกิ ยาซาวะ พระวัย 27 ปี ลงสมัครแข่งขันกีฬาเรือแคนู สลาลม โดยตั้งความหวังเอาเหรียญรางวัลกลับบ้านดังเช่นมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยลงแข่ง โอลิมปิก มาแล้ว 2 ครั้งที่ ปักกิ่ง ปี 2008 และ ลอนดอน ปี 2012 ทว่า มาในฐานะประชาชนทั่วไป ไม่ได้มาแบบผู้ถือศีล
กิจวัตรของ “พระยาซาวะ” คือ ตื่นมาทำวัตรก่อนพระอาทิตย์ขึ้นที่วัด เซนโคจิ ไดคันชิน ซึ่งอยู่จังหวัดนากาโนะ สวดมนต์นับชั่วโมงพร้อมกับจีวรสีขาวดำตามประเพณีคนญี่ปุ่น แต่หลังจากเข็มนาฬิกาเดินมาถึงเวลาบ่าย 3 โมง ก็จะเปลี่ยนมาสวมเสื้อโปโลกับกางเกงขาสั้น ลงฝึกซ้อมพายเรือที่แม่น้ำ ไซกาวะ
เนื่องด้วยวิถีปฏิบัติของสงฆ์ในญี่ปุ่นไม่ได้เคร่งแบบประเทศอื่น ทำให้ พระยาซาวะ สามารถแข่งขัน “ริโอ เกมส์” และด้วยการบวชพระถือเป็นอาชีพอย่างหนึ่งของแดนอาทิตย์อุทัย บวกกับการขาดสปอนเซอร์สนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้ ยาซาวะ ตัดสินใจบวชพระเพื่อหางบสนับสนุนด้านการฝึกซ้อมตั้งแต่จบ โอลิมปิก เมื่อ 4 ปีก่อน
“อาตมาไม่ได้มีความตั้งใจจะสร้างสมดุลระหว่างการเป็นพระ และนักกีฬา ตอนที่เริ่มบวชพระ อาตมาตัดสินใจแล้วว่าการดำรงตนในฐานะสงฆ์คืออาชีพหลัก ส่วนการเป็นนักกีฬาเรือแคนู ก็คืองานอดิเรกที่ทำในยามว่าง” พระยาซาวะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
ก่อนลงแข่งขันที่ บราซิล พระยาซาวะ อุทิศเวลาช่วงบ่ายฝึกซ้อมพายเรืออย่างเต็มที่วันละ 1 ชั่วโมงครึ่ง ปฏิบัติเช่นนี้ 6 วันต่อสัปดาห์ รวมถึงแบ่งเวลาไปวิ่งออกกำลังกายและเข้าโรงยิมดังเช่นนักกีฬาทั่วไป แม้จะเป็นเวลาเตรียมตัวที่น้อยกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน แต่เป้าหมายคงเดิมคือ “เหรียญทอง”
“อาตมาหวังว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการแข่งขันรายการใหญ่อย่าง โอลิมปิก และกลับมาประเทศญี่ปุ่นด้วยความรู้สึกที่ดี หนนี้อาตมามีความสบายใจกว่าครั้งก่อน คิดว่าน่าจะเป็นการแข่งขันที่สนุก” พระยาซาวะ กล่าวด้วยความมุ่งมั่น โดยไม่สนว่าการแข่งขัน โอลิมปิก ครั้งที่ 3 นี้จะทำสำเร็จได้เหรียญคล้องคอหรือไม่ก็ตาม